รีวิว มหาศึกคนชนเทพ การต่อสู้สุดมันส์ การ์ตูนดังญี่ปุ่น สิ้นสุดการรอคอยกันแล้วนะครับ สำหรับใครหลายๆ คน ที่รอคอยการกลับมาของ Records of ragnarok มหาศึกคนชนเทพ อนิเมะสุดมันส์จากค่ายญี่ปุ่น ที่จะพาคุณระทึกไปกับเรื่องราวการผจญภัยก่อนถึงวันสิ้นโลก หากใครชอบดูหนังแนกวันสิ้นโลก หรือชอบอนิเมะที่มีเหล่าเทพเป็นตัวแสดงนำ บอกได้เลยว่าต้องชอบ มหาศึกคนชนเทพ เรื่องนี้อย่างแน่นอน

การ์ตูนอนิเมะผู้ชาย สุดมันในฉบับ การ์ตูนอนิเมชั่น ซึ่งเรียกได้กว่าเป็นที่พูดถึงอย่างมากจนเป็นกระแสฮือฮาในโลกออนไลน์กันอย่างกว้างขวางเลยทีเดียว Records of ragnarok มหาศึกคนชนเทพ การ์ตูนมังงะแนวต่อสู้สุดมันส์ ที่จับเอาเหล่าเทพสุดเก่งมาต่อสู้แบบตัวต่อตัวกับยอดคนในประวัติศาสตร์ได้อย่างหน้าตาเฉย ฟังแค่นี้ก็รู้แล้วว่าอนิเมะเรื่องนี้มีการเล่าเรื่องที่สุดแปลกแหวกแนวกันอย่างแน่นอน โดยเรื่องราวสงคราม แร็กนาร็อก มหาศึกคนชนเทพที่มนุษย์และเทพเจ้าเปิดศึกกัน จะมีความอยู่รอดของมนุษยชาติเป็นเดิมพันอย่างแน่นอน และถ้าอยากรู้ว่าจะมันหยดจนอดที่จะดูไม่ได้รึป่าว ไปติดตาม ดูอนิเมะ record of ragnarok netflix กันได้เลย

รีวิว มหาศึกคนชนเทพ เรื่องย่อ

 เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อเหล่า เทพแห่งสงคราม เทพเจ้าจากแทบทุกศาสนาและทุกตำนานได้มาประชุมกัน

จากหัวข้อเรื่องที่เคยกล่าวว่า มนุษย์จะทำลายล้างมนุษยชาติ เพราะมนุษย์นั้นตกต่ำและทำลายโลกกับสิ่งมีชีวิตอื่นไปอย่างมากมาย จึงไม่คู่ควรที่จะอยู่ต่อในโลกมนุษย์แห่งนี้ เรื่องเล่าโดยมีแกนนำอย่าง เทพโอดิน กับ ซุส เทพศิวะ และเทพเจ้าจากตำนานอื่นๆ ที่ร่วมกันลงมติให้ทำลายมนุษย์ทิ้งไป

แต่แล้วเหล่าเทพธิดานักรบวัลคิวรี่ ซึ่งเป็นพวกเทพธิดาที่จะคอยนำวิญญาณของเหล่ามนุษย์ผู้เก่งกล้าเข้าสู่วัลฮาลาเพื่อรอที่จะร่วมในสงครามครั้งใหญ่สุดคือ แร็กนาร็อก ตามตำนานของเทพนอร์ส ซึ่งพวกวัลคิวรี่นำโดยบรุนฮิลด์ ได้ออกมาต่อต้านมติของที่ประชุมเหล่าเทพที่จะทำลายล้างมนุษยชาติ โดยการอ้างกฎข้อบังคับในการทำศึกแบบส่งตัวแทนประลอง แร็กนาร็อก ซึ่งจะเป็นการตัดสินว่าเหล่ามนุษยชาติจะถูกกวาดล้างหรือไม่

สำหรับการทำศึกประลองนี้จะให้มนุษย์และเทพเจ้าส่งตัวแทนออกมาฝั่งละ 13 คน โดยพวกวัลคิวรี่จะคัดเลือกตัวแทนมนุษย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักรบหรือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในด้านต่างๆ ออกมาเป็นตัวแทนในการต่อสู้เผชิญหน้ากับเหล่าเทพเจ้าที่มีพลังเหนือกว่ามนุษย์กันแบบตัวต่อตัว หากฝั่งไหนชนะ 7 ก่อนถือว่าชนะ แล้วมนุษย์ก็จะได้อยู่ต่อไปอีกพันปี

แต่มนุษย์ไม่สามารถต่อสู้กับพวกเทพเจ้าที่มีพลังเหนือกว่ามากอยู่แล้ว บรุนฮิลด์ซึ่งวางแผนที่จะปราบพวกเทพเจ้าแต่แรก จึงแอบวางแผนเรียกเหล่าพี่น้องวาลคิรี่รวมตัวเองด้วยทั้ง 13 คนมาช่วยเหลือพวกตัวแทนของมนุษย์ ซึ่งในแต่ละศึกพวกเขาก็จะได้รับพลังของเหล่าวัลคิวรี่ที่จะใช้พลังเฉพาะตัวของตนแปลงกายเป็นเทพศาสตราให้เข้ากับเหล่านักรบตัวแทนมนุษย์ เรียกว่า โวลุนด์ เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสที่จะต่อสู้กับเหล่าเทพเจ้า

ศึกนี้จึงเป็นการต่อสู้แบบประลองตัวต่อตัวที่มีอนาคตของมนุษยชาติเป็นเดิมพัน กับการต่อสู้ด้วยสเกลพลังสุดอลังการ ดุเดือดเลือดพล่าน เตะตรรกะเหตุผลทิ้งออกไปให้หมด มาลุ้นกันว่า แต่ละคู่จะฟาดฟันด้วย พลัง วิชา กันรุนแรงและบู๊กันได้สะใจขนาดไหน

รีวิว มหาศึกคนชนเทพ การต่อสู้สุดมันส์ การ์ตูนดังญี่ปุ่น

รีวิว มหาศึกคนชนเทพ คุ้มค่ากับการรอคอยมากแค่ไหน ?

สรุปแล้ว อนิเมะเรื่องนี้เป็นงานฟอร์มยักษ์ที่ค่อนข้างทำได้แย่จากที่คาดหวังไว้ ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าก่อนฉาย แฟนคลับเรื่องน่าจะคาดหวังไว้สูงมาก เพราะต้นฉบับมังงะทำไว้ดีเยี่ยม คือถ้าหากว่านี่เป็นอนิเมะที่ไม่ได้ถูกคาดหวังไว้สูงก็คงพอได้ ซึ่งนี่ก็น่าจะเป็นบทเรียนสำหรับทีมสร้างและทาง Netflix ที่ใช้บริการของสตูดิโอเกรดรองกับผลงานที่มาจากมังงะชื่อดัง ได้แต่หวังว่าซีซันสองจะถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่านี้

มหาศึกคนชนเทพ อนิเมะที่ถูกคาดหวังอันดับต้นๆของปี สร้างจากมังงะชื่อดัง แต่ทีมสร้างยังไม่เก่งพอจริงๆ ทำให้ฉากแอ็กชั่นและการบิ้วอารมณ์ในฉากสำคัญทำได้ไม่ถึง หวังว่าซีซันสองจะดีกว่านี้ แนะนำมังงะทำไว้สนุกกว่ามาก

แต่ในภาพรวมก็ทำได้อย่างดีเลยทีเดียวและที่สำคัญก็คือฉากต่อสู้ที่เป็นหัวใจหลักก็สุดยอดเช่นเดียวกัน แต่อย่างที่บอกแล้วว่าเรื่องนี้นั้นนำตัวละครที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์หรือตำนานมาใช้ ก็ตีความสามารถต่างๆตัวละครที่น่าสนใจ

และน่าติดตามเป็นอย่างมาก

จุดเด่น

โปรดักชั่นพอใช้ ภาพสวย เพลงประกอบเร้าใจ งานภาพสีสันสดใสสะดุดตาแบบสุดๆ

ดัดแปลงเป็นอนิเมะแบบเคารพเนื้อหาต้นฉบับพอสมควรทำให้มีความแปลกใหม่เพิ่มมากขึ้น

ตัวแทนฝั่งมนุษย์ที่ถูกเลือกมาทำให้เดาได้ยากดีว่าจะสู้กันยังไงทำให้มีความตื่นเต้นอยู่ตลอดๆ

มีพากย์ไทยดูได้ทุกเพศทุกวัย

รีวิว มหาศึกคนชนเทพ การต่อสู้สุดมันส์ การ์ตูนดังญี่ปุ่น

รีวิว มหาศึกคนชนเทพ เตรียมตัวก่อนดู

ก่อนดูเรื่องนี้มีคำแนะนำว่า ให้เตะเหตุผลและตรรกะต่างๆ ทิ้งไป เพราะคนเขียนต้นฉบับเรื่องนี้เลือกตีความเหล่ามหาศึกคนชนเทพ ตัวละครตัวแทนของมนุษย์ในประวัติศาสตร์และพวกเทพเจ้าในตำนานต่างๆ ออกไปทางบ้าพลัง บุคลิกสุดโต่ง แต่ก็ยังไม่ทิ้งตำนานหรือประวัติจากต้นกำเนิดเดิมของพวกเขาด้วย โดยผู้สร้างเลือกเอามาตีความใหม่ให้น่าสนใจและสามารถสร้างดราม่ากับเหล่าตัวละครได้น่าติดตามและทรงพลังไปในตัวด้วย

Record of Ragnarok Netflix รีวิว มหาศึกคนชนเทพ shuumatsu no valkyrie อนิเมะสงครามแร็กนาร็อก ที่มนุษย์และเทพเจ้าเปิดศึกกันโดยมีความอยู่รอดของมนุษยชาติเป็นเดิมพัน ทั้งสองฝ่ายต้องส่งตัวแทนฝ่ายละ 13 คนเข้าร่วม ฝ่ายไหนชนะ 7 คนก่อน ถือว่าชนะ โดยพวกมนุษย์ที่เป็นตัวแทนนั้นถูกคัดเลือกจากเหล่าเทพธิดาวัลคิวรี่ ว่าเป็นกลุ่มมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดและมีความสามารถที่จะเอาชนะพวกเทพได้

ต้นฉบับมังงะของเรื่องนี้มีลิขสิทธิ์แปลไทยแล้วกับสำนักพิมพ์ Phoenix ออกต่อเนื่องมาแล้ว 9 เล่ม สำหรับฉบับอนิเมะเป็น Original Netflix ซีซันแรก 12 ตอน สร้างโดยสตูดิโอ Graphinica ซึ่งเป็นค่ายใหม่ที่มีผลงานยังไม่มากนัก

รีวิว record of ragnarok สมกับที่รอคอยหรือไม่

รีวิว มหาศึกคนชนเทพ การต่อสู้สุดมันส์ การ์ตูนดังญี่ปุ่น สำหรับการรีวิวในส่วนของงานสร้าง โปรดักชั่น CG กราฟฟิก โมชั่น ทำได้ดีในระดับพอใช้ ไม่ถึงกับระดับดีหากเทียบกับความคาดหวัง ส่วนเพลงประกอบในฉากแอ็กชั่นมาแนวอลังการ เร้าใจ แต่บางฉากอาจจะเลือกเพลงประกอบไม่ค่อยดีหรือเข้ากับฉากนั้นเท่าไหร่นัก แล้วก็มีจุดที่แอบทำไว้ได้ดีคือ เพลงประกอบที่จะพยายามทำมาให้เข้ากับเชื้อชาติของตัวละครเหล่านั้น เช่น เพลงประกอบของลิโป้ก็เป็นเพลงในธีมของจีน มีเสียงเครื่องดนตรีจีนแฝงอยู่ด้วย แต่น่าเสียดายว่าเพลงประกอบในเรื่องทำออกมาไม่ติดหูเอาซะเลย ถ้าเทียบกับผลงานฟอร์มใหญ่หลายเรื่อง

ซึ่งก่อนรับชมอนิเมะเรื่องนี้ ผู้เขียนรีวิวมีความคาดหวังไว้สูงพอสมควร เพราะต้นฉบับ มังงะ อนิเมะ เขียนออกมาได้มันส์สะใจในอารมณ์ คนเขียนมังงะสามารถบิ้วอารมณ์คนดูได้ดีเอามากๆ ทั้งฉากที่ฮึกเหิม หรือฉากดราม่าตราตรึง

แต่สำหรับ อนิเมะแอคชั่น เรื่องนี้กลับดัดแปลงฉากแอ็กชั่นและการตัดต่อออกมาได้ไม่ดีเอาเลย ชนิดที่เรียกได้ว่า “สอบตก” เลยด้วยซ้ำ ราวกับว่ากำลังดูอนิเมะต่อสู้เมื่อยุค 90 ที่ต้องใช้วิธีการยืดฉากแอ็กชั่นออกไป ทำให้ความต่อเนื่องของการรับชมเสียหายไปอย่างไม่น่าจะเป็น แล้วข้อด้อยอย่างมากอีกจุดก็คือ อนิเมะใช้วิธีบอกเล่าฉากต่อสู้ด้วยการให้มีคนบรรยายหรือใช้การพากย์สด มีฉากบรรยายความคิดของตัวละครค่อนข้องเยอะ ซึ่งที่จริงแล้วกรณีนี้มีเรื่องโจโจ้ที่เคยทำไว้แต่อนิเมะดัดแปลงออกมาได้ดี แถมมันส์ในอารมณ์ ในขณะที่เรื่องนี้กลับทำเป็นอนิเมะออกมาแล้วไม่ดีอย่างมาก ระหว่างต่อสู้ก็ชอบตัดต่อไปที่ใบหน้าของพวกเทพเจ้าที่เป็นคนดูบ่อยครั้งเกินไป (ยังกับดู ซีรีส์อินเดีย ที่ชอบตัดภาพไปหาตัวประกอบเยอะๆ ทุกนาที) เรื่องนี้คงต้องโทษประสบการณ์ของผู้กำกับและทีมสร้างของเรื่องนี้ที่เห็นเลยว่ายังมือไม่ถึงสำหรับงานฟอร์มใหญ่ที่ถูกคาดหวังไว้สูงจากคนดู

 

มหาศึกคนชนเทพ spoil เทียบกับฉบับมังงะแล้วเป็นยังไงบ้าง

ที่จริงแล้วในต้นฉบับมังงะเอง ระหว่างฉากต่อสู้สุดระทึกใจหลายๆฉาย มักจะมีการสลับย้อนอดีตไปยังแฟลชแบ็กของตัวละครอยู่เรื่อยๆ แต่มังงะกลับเล่าเรื่องได้ดีมาก จนทำให้ไม่รู้สึกว่ามันเป็นการขัดจังหวะแต่อย่างใด0 แต่พอทำออกมาเป็นอนิเมะ กลับกลายเป็นว่าฉากแฟลชแบ็กที่ย้อนอดีตเป็นช่วงๆ กลับไปทำลายจังหวะการเล่าเรื่องและฉากต่อสู้ ทำให้ฉากต่อสู้ที่ควรจะดูต่อเนื่อง เลยออกมาขาดความต่อเนื่องของอารมณ์คนดู บิ้วอารมณ์คนดูไม่ขึ้นเลย แม้ว่าต้นฉบับมังงะมันก็เขียนมาแบบนั้นเหมือนกัน เพียงแต่การบอกเล่าผ่านช่องต่างๆ และเส้นสปีดในมังงะ ดูจะกระตุ้นและบิ้วอารมณ์ในฉากไคลแมกซ์ได้ดีกว่า นี่เลยเป็นจุดด้อยอย่างรุนแรงในการปรับเรื่องราวให้เป็นอนิเมะ แล้วยังมีบางฉากที่พยายามลดความรุนแรงลงมาจากฉบับมังงะ ตรงนี้พอเข้าใจได้ในแง่ของเรตความรุนแรงที่ในมังงะมีความดิบเลือดสาดมากกว่า แล้วยังมีการตัดบางฉากในมังงะออกไปด้วย

นอกจากนี้ในแง่ตัวเรื่อง ยังมีข้อเสียอีกหลายจุด เช่นการ “อวยญี่ปุ่จนออกนอกหน้า” มีอย่างที่ไหน พวกคนที่แข็งแกร่งที่สุดของมวลมนุษย์ที่ถูกคัดเลือกมาต่อสู้ในศึกนี้เป็นคนญี่ปุ่นไปถึง 4 คน แล้วอีกอย่างคือบรรดาตัวละครอื่นๆจากชาติต่างๆก็เหมือนเลือกมาเพราะความโด่งดังและคนญี่ปุ่นรู้จักกันอยู่แล้วมากกว่าด้วย เพราะถ้าให้เราจัดนักสู้ที่จะเข้ามาสู้ในศึกนี้ เชื่อว่าหลายคนคงตัดรายชื่อทั้ง 13 ของฝั่งมนุษย์ออกไปเยอะแน่ๆ แถมการตีความตัวละครตามตำนานและประวัติศาสตร์ก็ค่อนข้างบิดเบือนไปจากตำนานต้นฉบับเอามากๆ แต่ตรงนี้ถือว่าเป็นสีสันก็ได้ เพียงแต่คนจากชาติเหล่านั้นอาจจะไม่ค่อยแฮปปี้นัก

นอกจากนี้ยังมีข้อด้อยสำหรับทีมงาน Netflix ฝั่งประเทศไทยด้วยครับ คือตรงป้ายชื่อแนะนำบรรดาตัวละครต่างๆ จะไม่มีการเขียนแปลไทยกำกับไว้ โดยเฉพาะพวกตัวละครรองๆที่เป็นกองเชียร์ ซึ่งน่าเสียดายมากๆ เพราะตัวละครเหล่านี้ก็อิงมาจากประวัติศาสตร์และตำนานต่างๆด้วย ดังนั้นในส่วนนี้จึงหวังว่าทางทีมงานของ Netflix จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมครับ เพราะมันทำให้คนที่เพิ่งเริ่มดูอนิเมะจะไม่ทราบเลยว่า ตัวละครบางคนคือใคร ตัวอย่างเช่น สามพี่น้องเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย, ตันก๋ง กุนซือในทัพของลิโป้, เฮอร์มีส เทพใส่สูทที่ยืนข้างซุส และอื่นๆ อีกหลายคน นอกจากนี้ยังมีการแปลผิดให้เห็นด้วย โดยเฉพาะ โวลุนด์

ซึ่งในซีซันสองหลังจากนั้นจะถึงบทของตัวละครสุดโปรด สุดเฟี้ยว สุดเท่ ของแฟนๆอย่างศากยมุนี หวังว่าทีมสร้างอนิเมะจะทำออกมาให้ดูดีนะเออ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *