รีวิว สพันจ์บ็อบ กลับมาพบกับทางเราผู้รวบ รวมอนิเมะฮิต ที่น่าสนใจอีกแล้วนะคะ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดูอนิเมะและ ดูหนังออนไลน์ ทางเราก็มีภาพยนตร์แอนิเมชั่นสนุกๆ ของเจ้าฟองน้ำตัวสีเหลืองสุดน่ารักที่ทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี อย่างสพันจ์บ็อบ ผจญภัยช่วยเพื่อนแท้ The SpongeBob Movie: Sponge on the Run ภาพยนตร์การ์ตูนอนิเมชั่นสุดฮา ที่ทำให้คุณหัวเราะได้ตลอดทั้งเรื่อง
เรื่องราวอันน่าปวดหัวของ สแควร์แพนท์ ฟองน้ำสีเหลืองจอมซุ่มซ่าม ลูกจ้างของร้านเบอร์และอยู่ดีๆสูตรเบอร์เกอร์ของร้านได้หายไป ทำให้ชาวเมืองทุกคนใน เมืองบิกินี่ บอททอม ต้องอดกินเบอร์เกอร์ครัสตี้แคร็บ ทำให้ชาวเมืองใน เมืองบิกินี่ บอททอม ได้เกิดความวุ่นวายและความโกลาหลจนในที่สุดก็ได้เกิดสงครามขึ้นมา และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่แสนสนุก นั่นเอง และสำหรับเพื่อนๆที่ชื่นชอบอนิเมะแบบต่อสู้มันส์ๆ ทางเราก็มีรีวิวอนิเมะยอดฮิตอย่าง มหาศึกคนชนเทพ
ให้เพื่อนๆได้ติดตามเช่นกันจ้า
รีวิว สพันจ์บ็อบ ผจญภัยช่วยเพื่อนแท้ อนิเมะพากย์ไทยสนุกๆ
รีวิว สพันจ์บ็อบ ผจญภัยช่วยเพื่อนแท้ ข้อมูลอนิเมะ
The SpongeBob Movie: Sponge on the Run หรือ สพันจ์บ็อบ ผจญภัยช่วยเพื่อนแท้ ภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ถูกสร้างขึ้นจากค่าย นิคคาโลเดียน ในเครือไวอาคอมซีบีเอส โดยที่อนิเมะ สพันจ์บ็อบ สแควร์แพนส์ ของ สตีเฟน ฮิลเลนเบิร์ก กำกับและเขียนบทโดย ทิม ฮิลล์ ผู้กำกับคุณภาพที่ฝากผลงานดัง ๆ อย่าง การ์ฟิลด์ เดอะ มูฟวี่ 2 ให้เราได้รับชมกันมาแล้ว
เนื้อเรื่อง SpongeBob Movie reviews
ในภาพยนตร์ภาคที่3นี้จะเป็นการโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างสพันจ์บ็อบและแกรี่ หอยทากเพื่อนซี้และสัตว์เลี้ยงที่เป็นแค่ตัวประกอบเท่านั้น แต่สำหรับในครั้งนี้จะเจาะลึกให้เห็นถึงจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์และความสำคัญของทั้งคู่ผ่านการเดินทางตะลอนไปในโลกใต้ท้องทะเล จริง ๆ ซึ่งดูไปก็ยิ้มไปอิ่มเอมใจไปตลอดทั้งเรื่อง
ภาพยนตร์เรื่องนี้ควรจะได้ฉายในโรงภาพยนตร์ แต่อย่างที่ทราบกันว่าโควิดทำให้หนังต้องย้ายไปฉายในบริการสตรีมมิ่งแทน (น่าเสียดายมากๆ) ซึ่ง เน็ตฟลิกซ์ ก็ซื้อลิขสิทธิ์มาฉายได้สำเร็จ และเรายังจะได้ฟังเสียงพากย์ไทย จากเจ้าเดิมที่พากย์มาตั้งแต่เริ่มภาคแรกกลับมาอีกด้วย เรียกได้ว่าใครตามมาตั้งแต่เด็ก ต้องคุ้นเคยกับเสียงพากย์เสียงนี้ และแน่นอนว่าจะได้ฟีลแบบที่ไม่ต่างกับการดูโดราเอมอนมาตั้งแต่เด็กๆแน่นอน
การ์ตูนฟองน้ํา ตัวสีเหลือง สพันจ์บ็อบผู้มีหัวใจกล้าแกร่ง
จริงอยู่ที่แม้ว่าเรื่องจะเหมือนเปิดกว้างไปที่ปูมหลังของแกรี่ แต่มันยังครอบคลุมไปถึงตัวละครอื่น ๆ อย่างเพื่อนแท้ของสพันจ์บ็อบที่ออกมาให้เราได้รับรู้ว่าแท้จริงแล้ว เจ้าฟองน้ำสีเหลืองที่จริง ๆ ดูซุ่มซ่ามและน่ารำคาญในซีรีส์ มีหัวใจที่กล้าแกร่ง ไม่ย่อท้อ โอบอ้อมอารี ใจกว้างกับทุกคน และพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ
แม้หนังจะไขว้เขวไปบ้างในบางช่วงเพราะต้องให้เวลากับมุกตลก และบทของแกรี่ที่ไม่โดดเด่นหรือพิเศษไปกว่าภาคก่อน ๆ มากนัก แต่สิ่งที่ผมชอบทุกครั้งที่ดูสพันจ์บ็อบมูฟวี่ คือการใส่มิติของตัวละครที่มากกว่าในซีรีส์ เพราะแม้แต่ตัวละครที่ดูจะร้าย แต่จริง ๆ ก็มีมุมดี ซึ่งเราอาจจะเห็นบ่อยเวลามีอนิเมชั่นถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์ พวกเขาก็จะมาร่วมมือกันเพื่อฝ่าฟันอุปสรรคไปอย่างกล้าหาญและปราศจากการเอาชนะ เรียกได้ว่าใครได้ดูต้องหลงรักตัวละครแทบทุกตัวในเรื่องแน่นอน
มุกตลกที่ขายขำได้ตลอดทั้งเรื่อง
รีวิว สพันจ์บ็อบ วิเคราะห์หลังดู
นักแสดงผู้ให้เสียงสุดกวน และเพลงแสนเพราะเข้ากับการ์ตูนอนิเมชั่นได้เป็นอย่างดี
หากใครได้ดูตัวอย่างหรือตามข่าวมาบ้างจะรู้ว่านักแสดงที่มารับเชิญในเรื่องนี้แค่คนเดียวก็สะท้านวงการเรียบร้อยอย่างเคอานู รีฟส์ ที่สลัดภาพเพชฌฆาตนักฆ่าจอมโหดจากจอห์นวิค แรงกว่านรก มาสวมบทเป็นต้นเสจที่มาเป็นเพื่อนกับสพันจ์บ็อบและเพื่อน ๆ ซึ่งเฮียแกเหมือนเป็นคนที่มาแทนผู้ชมในการนำทางตัวละครไม่ให้นอกลู่นอกทาง
แต่จะทำสำเร็จมั้ยอันนี้ไปดูกันเอง นอกจากนี้ยังมีเซอร์ไพรส์อีกมากมายที่ใครดูหนังมาเป็นว้าว ทั้งนักพากย์ และนักแสดง ออกมาราวกับเป็นบิ๊กโปรเจกต์แห่งปีของภาพยนตร์ครอบครัวเลยทีเดียว อยากให้ไปดูเอง แต่รับรองว่าถ้าถึงฉากที่พวกเขาออกมาคุณจะต้องทึ่งบ้างแหละ ว่าพวกเขามาอยู่ในเรื่องนี้ได้ไง! นี่ยังไม่รวมกับเพลงประกอบสไตล์ดิสนีย์ที่ขนกันมาหลายสไตล์ตั้งแต่แร็พ ฮิปฮ็อป ยัน มิวสิคเคิล!
งานภาพจัดเต็ม งานกราฟฟิกที่เคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ
งานภาพเมื่อไม่อิงกับโลกความเป็นจริง จึงเนรมิตงานกราฟฟิกที่เคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ และพัฒนากว่าในภาค 2015 เสียอีก เพราะภาพยนตร์ได้เสนอภาพที่สมจริง แต่ก็ยังไม่สูญเสียอัตลักษณ์เดิมไป พร้อมสีสันที่สวยสดใสดูแล้วสบายตาและปราศจากความหดหู่อย่างภาคก่อน ๆ ช่วงแรกอาจจะยังไม่ชิน แต่ดูไปเรื่อย ๆ เราก็เข้าใจท่วงท่าและการเคลื่อนไหวของตัวละครในเรื่องเอง
นอกจากนี้ประเด็นยังแซะเรื่องทุนนิยม ความลุ่มหลงในความงาม ความเป็นผู้นำและเพื่อนที่ดี และความเชื่อมั่นในตัวเอง หรือเราจะสามารถมีผู้นำที่คู่ควรกับประชาชนหรือไม่อย่างไร เด็กได้ดูอาจจะได้ความสนุก แต่ผู้ใหญ่อาจจะได้อะไรมากกว่านั้นก็ได้ ในขณะเดียวกันหนังก็เหมือนหยิบเอาหนังสองภาคก่อนหน้าเขย่ารวมกันเป็นภาคนี้ โครงเรื่องจึงไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่ เพราะเรื่องของการเดินทางในเรื่องก็ไม่ต่างกับภาคแรก ในขณะที่ช่วงหลังที่มีตัวละครมากมาร่วมสมทบก็เหมือนเป็นภาคสอง แต่เบากว่าในแง่ของฉากแอ็คชั่น แต่มุกตลกถือว่ากลมกลืนกว่าภาคก่อนมาก แถมนักแสดงคนจริง ๆ ก็ไม่ทำให้อารมณ์ขาดตอนแถมมีซีนไม่กี่นาทีเลย
สรุปภาพรวม สปอนจ์บ็อบ The Movie
สำหรับเพื่อนๆที่ไม่เคยดูสพันจ์บ็อบภาค1และภาค2 มาก่อน และเป็นคนคิดเยอะ ทางเราแนะนำว่าต้อง ไปทำความรู้จักตัวละครกับเนื้อเรื่องก่อนเลยค่ะ ไม่งั้นมีงงกันแน่ ๆ เพราะด้วยความที่เนื้อเรื่องก็ค่อนข้างต่อเนื่อง สุดโต่งมากกกก 555 ถ้าคิดเยอะจะไม่สนุกเลย
จะมีอะไรผุดๆแทรกขึ้นมาในหัวตลอดเวลา อารมณ์แบบทำไมต้องอย่างนั้น ทำไมต้องอย่างนี้ สำหรับใครที่จะรอดูเดอะแก๊งค์ ไปตะลุยบนโลกมนุษย์ ขึ้นไปช้ามากค่ะ แต่แอบรู้สึกว่าช่วงอยู่ใต้น้ำสนุกกว่าตอนที่ขึ้นมาบนโลกมนุษย์แต่ก็นั่นแหละจ้า ก็เป็นความชอบของแต่ละบุคคล ซึ่งบางคนก็อาจจะชอบเนื้อหาช่วงที่อยู่บนโลกมนุษย์มากกว่าจ้า
เรื่องนี้ทางเราขอแนะนำเลยว่าควรดูกันเป็นครอบครัวแบบพร้อมหน้าพร้อมตา ในวันว่างๆ ดูกันเป็นหมู่คณะจะสนุกและเพลิดเพลินมากกว่าดูคนเดียว หนังให้ความสำคัญกับประเด็นที่เรียบง่ายที่บางทีเราอาจจะมองข้ามไปด้วยซ้ำ และให้ความสำคัญกับสปอนจ์บ็อบ ตัวละครที่ใครหลายคนรักพร้อมขยายมุมมองมากขึ้น แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายจริงๆที่หนังต้องลงมาฉายในบริการสตรีมมิ่งแทนที่จะได้ฉายในโรงภาพยนตร์
มันไม่ใช่หนังอนิเมชั่นชิงรางวัล เนื้อเรื่องดีเด่น เพลงเพราะเวอร์ หรือภาพสวยยอดเยี่ยม แต่มันให้ความบันเทิง และความอบอุ่นกับคุณหลังดูจบได้แน่นอน คุณภาพมันดีเกินไป อาจดีกว่าภาคก่อนด้วยซ้ำ รับรองว่าภาพยนตร์อนิเมชันเรื่องนี้นั้น ไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังอย่างแน่นอน…
สำหรับเด็กๆและแฟนคลับสพันจ์บ็อบ ต้องรักในภาพยนตร์เรื่องนี้มากกกกก มีมุขตลกที่มีตลอดเวลา ขำได้ตลอด ขำแบบไม่มีกั๊ก เป็นสพันจ์บ็อบอีกภาคที่ไม่ทำให้เด็กๆและแฟนๆผิดหวัง ไม่ต้องคิดอะไรมาก เข้าไปชมก็มีความสุขแน่นอน
แต่ด้วยความที่เรื่องเนื้อหาก็ง่ายแบบเดาทางออก ไม่มีอะไรน่าลุ้น แต่ความสำคัญที่ทางเราประทับใจ ยกให้เป็นหนังที่ดี คือมันรู้ว่ามันเป็นอะไร แต่จะทำให้ออกมาดีในตัวมันอย่างไร แบบที่ผู้ชมไม่รู้สึกเบื่อ ซึ่งหนังก็ทำสำเร็จแล้ว และสามารถดูได้ที่เน็ตฟลิกซ์ มีเสียงพากย์ภาษาไทย โดยทีมอนิเมชั่นซีรีส์ด้วย พิเศษมาก ๆ ห้ามพลาดที่จะรับชมเด็ดขาดเลยนะคะ
ข้อดี
– มุขตลกคือทำออกมาได้ดีมากๆ ไม่ฝืด เป็นธรรมชาติสุดๆ ขำทั้งเรื่องแน่นอน
– ภาพในอนิเมะสวยมาก ดูเพลินตา แบบเพลินๆ ไม่เบื่อเลยซักนิด
– ความสนุกไม่ได้ด้อยไปกว่าใน 2 ภาคแรกเลย เด็กๆแฟนๆสพันจ์บ็อบชอบแน่นอน
ข้อเสีย
– เรื่องความเชื่อมโยงระหว่างภาคการ์ตูนกับโลกมนุษย์แอบรู้สึกไม่เข้ากันไปซักหน่อย
– ด้วยความที่เนื้อเรื่องสุดโต่งมาก จึงทำให้บางทีเรารู้สึกไม่อินไปกับเรื่อง
สรุป
อย่างสพันจ์บ็อบ ผจญภัยช่วยเพื่อนแท้ The SpongeBob Movie: Sponge on the Run เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นสามมิติที่คุ้มค่าตั้งแต่ต้นจนจบ เหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นภาพยนตร์ที่ดูด้วยกันทั้งครอบครัวในวันว่างๆ เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี เนื้อเรื่องอบอุ่น งานภาพสวยแบบจึ้งดูได้เพลินๆแบบไม่มีเบื่อ และแฝงด้วยประเด็นดี ๆ ที่ใช้เป็นข้อคิดในการใช้ชีวิตได้อีกด้วย