รีวิว abominable การ์ตูนแนะนํา netflix

 

 

 

สำหรับวันนี้ทางเราก็อยากจะมาเปลี่ยนแนวจากการรีวิวการ์ตูนต่อสู้การ์ตูนอนิเมะผู้ชายมาแนะนำการ์ตูนสุดน่ารักเรื่องราวอันสุดซึ้งกินใจของมิตรภาพของมนุษย์หิมะผู้น่ารักและผองเพื่อนที่จะมาสร้างความประทับใจให้กับทุกๆท่านได้ซาบซึ้งไปพร้อมๆกันกับการ์ตูนอนิเมชันเรื่อง Abominable เอเวอเรสต์ มนุษย์หิมะเพื่อนรัก ที่มีความน่ารักและซาบซึ้งกินใจเป็นอย่างมากโดยอนิเมะน่าดูเรื่องนี้ก็เป็นผลงานของดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชั่น ผู้สร้างชื่อดังที่สร้างสรรผลงานมาให้เราได้รับชมกันแล้วอย่างมากมาย Abominable เอเวอเรสต์ มนุษย์หิมะเพื่อนรัก จะพาผู้ชมไปผจญภัยสุดยิ่งใหญ่บนเส้นทาง 2 พันไมล์ จากเซี่ยงไฮ้สู่เทือกเขาหิมาลัยซึ่งบอกได้เลยว่าหลังจากที่ได้ดูอนิเมะเรื่องนี้แล้วทางเราก็ไม่พลาดโอกาสที่จะมารีวิวเพื่อนๆจ้า ไปติดตามกันเลย

 

เรื่องย่อ Abominable Netflix

รีวิว abominable การ์ตูนแนะนํา netflix Abominable เอเวอเรสต์ มนุษย์หิมะเพื่อนรัก ผลงานล่าสุดจากดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชั่น สตูดิโอผู้สร้าง How To Train Your Dragon ที่จะพาผู้ชมไปผจญภัยสุดยิ่งใหญ่บนเส้นทาง 2 พันไมล์ จากเซี่ยงไฮ้สู่เทือกเขาหิมาลัย

ยี สาววัยรุ่น (โดลอี้ เบนเนทท์ จาก Marvel’s Agents of S.H.I.E.L.D. บังเอิญพบเยติบนหลังคาอพาร์ทเมนต์ของเธอในเซี่ยงไฮ้ เธอและเพื่อน ๆ จอมกวน ทั้ง จิน (เทนซิง นอร์เกย์ เทรนเนอร์) และเพ็ง (อัลเบิร์ต ซาย) ตั้งชื่อว่า “เอเวอเรสต์

และออกผจญภัย เพื่อพาเยติกลับไปพบกับครอบครัวที่จุดสูงสุดของโลก ทั้ง 3 คน ต้องเผชิญหน้ากับเบอร์นิช (เอ็ดดี้ อิซซาร์ด) เศรษฐีที่ตั้งใจจะจับตัวเยติและนักสัตววิทยา ดร.ซาร่า (ซาร่าห์ พอลสัน) เพื่อช่วยเอเวอร์เรสต์กลับบ้าน

 

หลังใช้ชีวิตอย่างเด็กแปลกแยกเพราะสูญเสียพ่อในที่สุด หยี่ (พากย์โดย โคลอี เบนเนต)ก็ได้พบมิตรภาพสุดแปลกประหลาดกับ เอเวอเรสต์ เยติที่หลุดจากห้องทดลองของ เบอร์นิช (พากย์โดย เอดดี อิซซาร์ด) มหาเศรษฐีที่สะสมสัตว์แปลกๆ จนกระทั่งเจ้าเอเวอเรสต์ถูกตามล่า ภารกิจพาเพื่อนกลับบ้านสุดวายป่วงที่พ่วง จิน (พากย์โดย เทนซิง นอร์เกย์ เทรเนอร์)เพลย์บอยหนุ่มติดโซเชียล และ เผิง (พากย์โดย อัลเบิร์ต ไช่) หนุ่มตุ้ยนุ้ยที่ฝันอยากเป็นนักบาสเก็ตบอล งานนี้ทั้ง 2 หนุ่ม 1 สาวและเจ้าเยติจะได้เดินทางบนเส้นทางที่จะพิสูจน์มิตรภาพและความหมายของคำว่าครอบครัว

รีวิว abominable การ์ตูนแนะนํา netflix

ผลงานเต็มตัวเรื่องแรกของ Pearl Studio

 

Abominable คือผลงานเต็มตัวเรื่องแรกของ Pearl Studio บริษัทร่วมทุนระหว่างดรีมเวิร์ค แอนิเมชัน กับ ซีเอ็มซี (CMC หรือ China Media Capital)ตั้งแต่ปี 2012 หลังจากทางดรีมเวิร์กได้พัฒนากำลังคนร่วมกับทางแอนิเมเตอร์ชาวจีนและได้ฝึกปรือฝีมือผ่านการช่วยงานส่วนเสริมในฉากต่างๆของแฟรนไชส์แอนิเมชันของดรีมเวิร์กมาช้านานอาทิ How to train your dragon 2 และ Kungfu Panda 3 และในเมื่อฝีมือและการทำงานทุกอย่างเข้าฝักแล้วโพรเจกต์ Abominable จึงกลายเป็นพื้นที่ปล่อยของทีมงานเพิร์ลอย่างแท้จริง เพียงแต่อยู่ภายใต้การกุมบังเหียนของมืออาชีพวงการแอนิเมชันฮอลลีวูดนำโดย จิล คัลตัน ผู้กำกับสาวที่ผ่านการร่วมงานมาทั้ง พิกซาร์ และ โซนี่ แอนิเมชันรับหน้าที่กำกับควบเขียนบท และ ทอดด์ วิลเดอร์แมน ในฐานะผู้กำกับร่วม ซึ่งข้อดีสำคัญคืองานภาพที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงามดูเป็นงานฮอลลีวูดมากกว่างานจีนที่ดูไม่น่าดึงดูดใจแบบ Legend of a Rabbit และยังทำให้การเล่าเรื่องดูเป็นสากลแต่สามารถสอดแทรกวัฒนธรรมและเนื้อหาส่งเสริมการท่องเที่ยวจีนตามใบสั่งได้อย่างไม่ขัดเขิน

 

 

 

 

รีวิว abominable การ์ตูนแนะนํา netflix

ความบันเทิงที่ Abominable หนังแอ็คชั่นแฟนตาซีน่าดู มอบให้กับผู้ชม

 

ความบันเทิงที่ Abominable ให้คนดูแน่ๆคือการเล่าเรื่องที่ดูสนุก ฉากแอ็กชันแฟนตาซีตื่นตาและมุกตลกที่สอดแทรกมาแทบทั้งเรื่องพ่วงตัวขโมยซีนเรียกเสียงหัวเราะ (ที่คราวนี้มาเป็นงู ดูวู๊บ (ผลุบโผล่) ที่ได้ไปหลายฮาเหมือนกัน) เหมือนหนังแอนิเมชันของดรีมเวิร์กที่เราคุ้นเคย ทั้งเรื่องการผจญภัยเพื่อพิสูจน์คุณค่าของตัวเองเหมือน How to train your dragon, ความสำคัญของครอบครัวเหมือน Shrek หรือกระทั่งอัตลักษณ์ความเป็นจีนที่ดรีมเวิร์คเคยถ่ายทอดมาแล้วจากไตรภาค Kungfu Panda ซึ่งถือว่าส่งอิทธิพลและเป็นแรงต่อยอดไม่น้อยให้เกิดโพรเจกต์ Abominable นี้ ซึ่งแม้ทีม “หัว” จะเป็นฝรั่งแต่ในเมื่อต้องทำตามใบสั่ง เราจึงได้เห็นการถ่ายทอดวัฒนธรรมจีนในระดับเข้มข้น เช่น การเรียกสรรพนามในครอบครัวก็ใช้คำจีนแทรกทั้ง หม่าม้า และ ไหน่ไน้ (อาม่า) หรือแม้แต่ชื่อนางเอกอย่าง หยี่ ที่พ้องเสียงได้ทั้งเลข 1(อี้) เพื่อแทนความโดดเดี่ยวของตัวละคร และยังพ้องกับ ปลา (อวี๋)ในภาษาจีน ซึ่งกรณีหลังบทหนังยังจงใจเอาภาษิตจีนโบราณเกี่ยวกับปลาที่ว่ายทวนน้ำเพื่อกลับบ้านมาใช้เป็นบทสนทนาเพื่อให้บทเรียนนางเอกได้อย่างล้ำลึกอีกด้วย และแน่นอนสิ่งที่จะขาดไม่ได้คือเนื้อหาส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ต้องยอมรับว่าดูแล้วอยากแพ็คกระเป๋าตีตั๋วไปเที่ยวทันทีเหมือนกันทั้งภูเขาหวงซาน แม่น้ำแยงซี และแน่นอนไฮไลต์ของเรื่องอย่างพระใหญ่เล่อซาน ที่นางเอกและเพื่อนๆได้ร่ายมนต์จนเกิดฉากสวยงามน่าประทับใจอีกด้วย

รีวิว abominable การ์ตูนแนะนํา netflix

 

แรกเตอร์ของตัวละคร

รีวิว abominable การ์ตูนแนะนํา netflix ถึงจะออกแบบคาแรกเตอร์ได้ดูตี๋หมวยแค่ไหน แต่ทีมพากย์ก็ยังเน้นน้ำเสียงที่ให้อารมณ์ตัวละครเป็นสำคัญมากกว่าการแคสต์นักแสดงจีนมาพากย์ซึ่งถือเป็นข้อดีของหนังตั้งแต่ โคลอี เบนเนต ขวัญใจหนุ่มๆจากซีรีส์ Agents of Shield ที่มาให้เสียง หยี่ นางเอกสาวผู้แปลกแยกจากสังคม ส่วนตัวละครอื่นๆก็ได้ทั้งเสียงหล่อๆของ เทนซิง นอร์เกย์ เทรเนอร์ ในบท จิน และ อัลเบิร์ต ไช่ ในบทเผิง ตัวละครตุ้ยนุ้ยเรียกเสียงหัวเราะของเรื่อง และถือเป็นไฮไลต์สำคัญคือการออกแบบเสียงของ เอเวอเรสต์ที่เลือกใช้เสียงเบสแบบการร้องประสานเสียงแทนการออกแบบให้ดูเป็นสัตว์ป่า ซึ่งหนังก็ได้เสียงของ โจเซฟ อิซโซ ที่ผ่านงานพากย์แอนิเมชันมาหลายเรื่องมาให้เสียงที่ถูกออกแบบให้กลมกลืนไปกับเสียงไวโอลินที่ หยี่ เล่นจนเกิดเสียงอันไพเราะน่าประทับใจ แถมยังไปกันได้ดีกับดนตรีประกอบของ รูเพิร์ต เกรกสัน วิลเลียมส์ จนทำให้งานเพลงประกอบของ Abominable ช่วยเสริมอารมณ์ให้เรื่องราวได้เป็นอย่างดี

Abominable ถือเป็นแอนิเมชันที่แสดงให้เห็นศักยภาพของจีนในการผลิตงานที่อาจส่งอิทธิพลต่อวงการภาพยนตร์ในอนาคต โดยแม้ว่าจะยังต้องอาศัยสตูดิโอฮอลลีวูดในด้านการคุมคอนเทนต์อยู่ แต่เชื่อว่าไม่นานเลย เราอาจเห็นพัฒนาการแบบก้าวกระโดดของจีนในการเป็นผู้นำแอนิเมชั่น น่าดู อย่างน้อยก็ในเอเซีย โดยหนังมีข้อติติงเพียงเล็กน้อยเรื่องบทที่อาจยังมีช่องโหว่อยู่บ้าง แต่โดยภาพรวมถือเป็นแอนิเมชันที่จะทำให้คนดูหลงรักได้ไม่ยากเลยทีเดียว.

อ่อ.. ขอเตือนไว้หน่อยว่าในฉากเอนด์เครดิตที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่กลับซ่อนความฮาไว้ในภาพถ่ายได้อย่างแนบเนียนและเป็นการสรุปเรื่องให้สมบูรณ์ขึ้น อย่ารีบลุกกันนะจ๊ะ.

 

ตัวละครเอกนามว่า ยี (โคลอี้ เบนเน็ต)

 

เมื่อวัยรุ่นสาว นามว่า ยี (โคลอี้ เบนเน็ต) เผชิญหน้ากับเยติน้อย บนดาดฟ้าตึกอพาร์ตเมนต์ที่เธออาศัยอยู่ ยีกับเพื่อนๆ อันได้แก่ จิน (เทนซิ่ง นอร์เกย์ เทรนเนอร์) และเผิง

 

ญาติของเขา (อัลเบิร์ต ไช่) ตั้งชื่อเยติตัวนั้นว่า “เอเวอเรสต์” หลังจากนั้น ทั้งหมดได้ร่วมเดินทางอันยิ่งใหญ่เพื่อพาสิ่งมีชีวิตวิเศษตัวนี้กลับคืนสู่ครอบครัวของเขาที่อยู่ ณ จุดสูงที่สุดของโลกนั่นคือเทือกเขาเอเวอร์เรส

หลังจากกล่าวลาแม่ของ ยี(มิเชลล์ หว่อง) และคุณย่า ไน่ไน่ (ไช่ฉิน) สามเพื่อนซี้ต้องพยายามเอาตัวรอดจากการไล่ล่าของเบอร์นิช (เอ๊ดดี้ อิซซาร์ด) มหาเศรษฐีนายทุนที่ต้องการจับตัวเยติ ที่คล้ายกับเยติที่เขาเคยเจอเมื่อสมัยเป็นเด็ก และดร.ซาร่า (ซาร่าห์ พอลสัน) นักสัตววิทยาที่พยายามจะจับเยติด้วยมือที่แสนละโมบของเธอ

 

ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยให้ เอเวอเรสต์ (ให้เสียงโดย โจเซฟ อิซโซ) ได้กลับถึงบ้าน และได้กลับไปอยู่กับครอบครัวของเขาอีกครั้ง

การเดินทางครั้งนี้ ในมุมกลับกันเอเวอเรสต์จะช่วย ยี, จิน และเผิง ในการปลดล็อคความกล้าหาญที่พวกเขาไม่เคยรู้ว่ามีอยู่ในตัว เมื่อพวกเขาต้องการจะส่งสิ่งมีชีวิตปริศนาตนนี้กลับไปยังบ้านของเขา เอเวอเรสต์ก็จะช่วยให้ทั้งสามค้นพบความสามารถในตัวเองเช่นเดียวกัน

 

เรื่องราวในธีมของความรักและความสูญเสีย

บทภาพยนตร์เรื่อง Abominable disney Plus ต้องการจะพาผู้ชมไปสำรวจเรื่องราวในธีมของความรักและความสูญเสีย ในแบบที่เรียบง่าย เข้าใจได้ทุกเพศ ทุกวัย เรื่องราวในหนังเรื่องต้นขึ้น เมื่อพ่อของยีตายไป และเอเวอเรสต์ก็หลงทาง ต้องพลัดพรากจากครอบครัวของเขา และไม่สามารถหาทางกลับบ้านได้ ในชีวิตของเธอเอง

 

ความทรงจำที่สาหัสที่สุดมาพร้อมความทรงจำที่เจ็บปวดที่สุด เธอรู้ดีว่าสำหรับคนดู เพื่อจะสร้างความผูกพันกับยีเธอต้องพูดถึงความเจ็บปวดแบบนั้น ไม่ใช่ถอยห่างจากมัน ขณะที่เธอเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ คัลตันได้ถักทอเรื่องราวของเด็กวัย 16 ปีที่เป็นตัวของตัวเอง ซึ่งต้องเสียพ่อของเธอไป และเริ่มรู้สึกเหมือนไม่เข้าใจกับแม่และย่า

 

ผู้พยายามจะทำให้ ยีเปิดใจ และกลับมาผูกพันกับครอบครัวอีกครั้ง คัลตันต้องการให้ ยีเป็นตัวของตัวเองและคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง เป็นทอมบอยผู้ไม่พร้อมที่จะเผยความเจ็บปวดที่แท้จริงออกมา ยีมาเจอเอเวอเรสต์บนดาดฟ้าตึกในช่วงวิกฤตของชีวิตพอดี เมื่อเธอเริ่มเห็นว่าเธอต้องหันไปสร้างความผูกพันและเข้าใจกับคนอื่นๆ อีกครั้ง เพราะเอเวอเรสต์ต้องห่างจากบ้านของเขาในหิมาลัย และต้องการความช่วยเหลือจากเธอ ยีเรียนรู้ที่จะเปิดใจและตัดสินใจที่จะพาเขากลับไปยังที่ที่เขาจากมา ภารกิจในครั้งนี้จึงเป็นเหมือนการเติมเต็มอารมณ์ของตัวละครเอง ซึ่งคนดูจะได้ทำความเข้าใจตัวละครยี ไปพร้อมๆกับการเดินทางอันน่าตื่นเต้นนั่นเอง

จุดเด่น-จุดสังเกต

จุดเด่น

ผสานวัฒนธรรมจีนกับเรื่องเล่าที่เป็นสากลได้กลมกลืน

อนิเมชันเล่าเรื่องได้สนุก เดินเรื่องเร็ว

งานดนตรีประกอบดีงามมาก

งานภาพสวยประทับใจ

จุดสังเกต

บทยังมีช่องโหว่และความไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้าง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *