รีวิว Pokemon The Movie Secrets of the Jungle โปเกมอน เดอะ มูฟวี่ ความลับของป่าลึก

สวัสดีเพื่อนๆ ชาวอนิเมะทุกๆคนนะคะ และในวันนี้เราจะมา รีวิว Pokemon The Movie Secrets of the Jungle เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดจากแฟรนไชส์สื่อที่โด่งดังและประสบความสำเร็จสูงสุดตลอดกาลอย่าง Pokemon มันเป็นหนังเรื่องที่ 23 ในรอบ 25 ปีของแฟรนไชส์นี้สำหรับโปเกม่อนหนังโรงภาคนี้ ก็เป็นอีกภาคหนึ่งที่เนื้อเรื่องเป็นเอกเทศจากภาคซีรี่ส์ ดังนั้นพวกเราจะเก็บพ่อหนุ่มโกคู่ขาเพื่อนสนิทของซาโตชิในภาคทีวีเอาไว้ก่อน เพราะว่านางจะไม่มีหน้าที่ในภาคนี้ค่ะ โดยภาคนี้จะเป็นเรื่องราวของซาโตชิรวมทั้งพิคาชู ที่จะไปเผชิญภัยที่ป่าโอโคยะ

และก็ได้เจอกับ โคโค่ เด็กวัยรุ่นชาวมนุษย์ที่ถูก “ซารู๊ด” (โปเกม่อน) ชุบเลี้ยง รวมทั้งกลายเป็นเพื่อนกัน โดยตัวโคโค่นั้นไม่เคยทราบมาก่อนว่าตนเองเป็นมนุษย์ เพราะดำเนินชีวิตอยู่แต่ในป่าไม่เคยพบผู้ใด แถมยังเข้ากับซารู๊ดตัวอื่นเว้นแต่พ่อบุญธรรมไม่ได้ เพราะว่าพ่อของซารู๊ดถูกขับออกมาจากฝูงเพราะเหตุว่าเก็บเอาโคโค่ที่เป็นมนุษย์มาเลี้ยงไว้นั่นเอง

รีวิวอนิเมะ ลึกเข้าไปในป่าโอโคยะ โปเกมอนในตำนานชื่อว่าซารูด อาศัยอยู่ที่ Heart Tree และคอบปกป้องน้ำพุบำบัด Zarude ครอบครองเหนือป่า คอยคุกคามโปเกมอนป่าตัวอื่นๆแล้วก็ลักขโมยของกิน ของพวกมันเป็นประจำ อยู่มาวันหนึ่ง ภายหลังจากเก็บของกินซึ่งถูกโจรกรรมมา ซารูเดะได้ยินเสียงร้องไห้ และก็ได้เจอเด็กทารก อยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำ เขาไม่อาจจะทิ้งเด็กไว้ผู้เดียวได้ ซารูเดะรับเขามาเป็นลูกชาย ตั้งชื่อให้เขาว่า “โคโค”

ซารูเดะ ได้ออกมาจากเผ่าของเขา เพราะว่าทำผิดกฎของเผ่า เขาจึงเข้าไปในป่า Great Tree ที่ซึ่งมนุษย์ถูกห้ามไม่ให้เข้า เพื่อเลี้ยง โคโค จนกระทั่งโตขึ้น

สิบปีถัดมาซาโตชิแล้วก็พิค้างชู ได้เดินทางไปยังป่า โอโคยะ จากเมือง ไมลิฟา ที่อยู่ใกล้เคียง ขณะบากบั่นจับ Cramorant ในป่าซาโตชิแล้วก็พิคาชู เจอทีมงานนักวิจัยจาก Biotope Company หน่วยงานวิทยาศาสตร์ ที่กำลังเรียนป่า กลุ่มRocketได้แอบ ติดตามพวกเขาอย่างลับๆแล้วก็ได้ค้นหาข้อมูล เกี่ยวกับบริษัท Biotope และก็ Dr. Zed ประธานบริษัท ก็เลยตกลงใจแทรกซึม เข้าไปในกลุ่ม

ถัดมาซาโตชิรวมทั้งพิคาชู ได้ลงไปช่วยโคโค ที่พลัดหล่นน้ำตก แล้วก็ดึงเขาขึ้นจากน้ำ พาเขาไปที่ Pokémon Center ของ Milyfa Town เพื่อเข้ารับการดูแลและรักษา เมื่อโคโกะตื่น เขาตื่นตกใจและก็ หนีออกมาจากตึก โดยที่เขาไม่เคยมองเห็นมนุษย์ผู้อื่นมาก่อน เมื่อพบว่าวัวโค่มั่นใจว่า ตนเองเป็นโปเกมอน ซาโตชิและก็พิค้างยก ก็เลยใช้เวลาร่วมกับเขาในเมือง ช่วยทำให้เขาได้ทำความเข้าใจ เกี่ยวกับมนุษย์เป็นครั้งแรก ดูหนัง4k

เรื่องราวของเกมโปเกมอนนี้มีลักษณะเหมือนดิสนีย์มาก ดูจากโครงเรื่องแล้ว มันเหมือนกับการผสมหมาป่าเมาคลีกับทาร์ซาน มันยังเป็นละครเพลงเหมือนกับดิสนีย์อีกด้วย (น่าเสียดายที่เวอร์ชั่น Netflix ไม่ได้มีเพลงไทยครบทุกเพลง มีแต่เพลงของ Sarud เท่านั้นที่ทำขึ้นมา) และบอกตามตรง Satoshi ยังดูเหมือนเป็นตัวประกอบในภาคนี้ด้วยซ้ำ เพราะพระเอกตัวจริงคือโคโค่จึงดูเหมือนกำลังอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสองฝ่าย ระหว่างมนุษย์กับโปเกมอน

โคโคไม่เห็นด้วยกับพวกซาลุดที่อิจฉารังของพวกเขา ซึ่งเป็นแหล่งน้ำวิเศษที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้โดยไม่ต้องให้โปเกมอนประเภทอื่นใช้มัน ในขณะเดียวกัน Coco ก็รักโปเกมอนและรู้สึกถึงความผูกพันระหว่างมนุษย์กับโปเกมอน แต่ยังสัมผัสด้านมืดของมนุษย์ที่ต้องการน้ำวิเศษโดยไม่ใส่ใจวิธีการทำให้ป่าต้องทนทุกข์ทรมาน

โครงเรื่องเรียบง่ายและมีสไตล์เหมือนหนังเด็ก กล่าวอีกนัยหนึ่ง มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเราที่จะเดาฉากจบเพียงแค่มองดู แต่ก็มีจุดที่น่าสนใจอีกมาก เช่น ฉากคอมพิวเตอร์กราฟิกในหลายๆที่ ฉากก็สวย ภาพก็สวย ไม่ต้องดูซีรีย์ก็เข้าใจเรื่องราวได้ เพราะเรื่องราวต่างแยกจากกัน ส่วนผลงานไทยคือเสียงของทีมทรูที่เราคุ้นเคย (พวกเขาทำสิ่งนี้มาหลายปีแล้ว) อย่างที่เราบอกไปก่อนหน้านี้ เรื่องราวในส่วนนี้ถือว่า Coco เป็นตัวละครที่โดดเด่นมากกว่า Satoshi แอบหวังอยู่ว่าอยากดูเรื่องราวของโคโค่ต่อถึงแม้ไม่น่าจะเป็นไปได้ก็ตาม แต่ถ้ามีโอกาสคงจะดีที่ได้เป็นดารารับเชิญในละครโทรทัศน์บางเรื่อง

ภาพยนตร์แอนิเมชั่นโปเกมอนเรื่องนี้ “Pokémon the Movie: Secret of the Jungle” เข้าฉายในญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว มีกำหนดฉายทาง Netflix วันที่ 8 ตุลาคม

ภาคนี้ถือเป็นภาคที่ 23 ของหนังซีรีย์เรื่องนี้ จากวิดีโอเกมที่ออกแบบโดย Satoshi Tajiri มันเป็นการกลับมาสู่สไตล์การ์ตูน 2 มิติที่วาดด้วยมือหลังจากที่ “Mewtwo Strikes Back: Evolution” เปลี่ยนไปใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก

เรื่องราวในส่วนนี้ดูเหมือนจะได้รับแรงบันดาลใจจาก Mowgli เรื่องราวของเด็กกำพร้าที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยโปเกมอนจากป่ามหัศจรรย์ เด็กคิดว่าเขาเป็นโปเกมอนจนกระทั่งเขาได้พบกับแอชและพิคาชู

ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายนั้น นักวิทยาศาสตร์ผู้โหดเหี้ยมและทีมร็อคเก็ตได้บุกเข้าไปในป่าแห่งมนต์เสน่ห์ ที่ซึ่งพวกเขาต้องการค้นหาน้ำพุที่มีพลังแห่งน้ำอมฤตแห่งชีวิต พวกเขาทั้งหมดและโปเกมอนในป่าต้องร่วมมือกันเพื่อต่อต้าน

ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดยเท็ตสึโอะ ยาจิมะ ผู้กำกับภาพยนตร์โปเกมอนปี 2018 เรื่อง Pokémon the Movie: The Power of Us

ถัดมาซาโตชิกับ พิคาชูแล้วก็โคโค ได้เจอกับซารูเดะ ซึ่งถูกบังคับให้สารภาพข้อเท็จจริง ว่าโคโคเป็นมนุษย์ ซารูดพาพวกเขาไปที่ห้องแลปร้าง ที่เขาเจอภายหลัง รับเลี้ยงโคโคได้ไม่นาน โดยเขาให้มองรูปที่เขาเจอ เป็นเด็กทารกโคโค กับพ่อแม่ที่เป็นมนุษย์ แล้วซารูเดะก็จากไป กลับไปที่ต้นไม้ใหญ่Great Treeเพียงคนเดียว

พวกเขาได้เก็บกระเป๋าของบริษัท Biotope ได้ซาโตชิกับโคโค ก็เลยพากันไปที่สำนักงานใหญ่ ซึ่งพวกเขาได้เจอกับ ดร.เซด เขาเผยออกมาว่าพ่อแม่ของ โคโคเป็นChrom แล้วก็ Phossa Molybden นักวิทยาศาสตร์คู่หนึ่ง ที่เป็นหัวหน้าในการศึกษา เกี่ยวกับน้ำพุที่การดูแลรักษา และก็ชื่อเต็มของโคโคเป็นAl Molybden

อย่างไรก็ตาม Chrom แล้วก็ Phossa เสียชีวิตในอุบัติเหตุ ทางรถยนต์เมื่อสิบปีกลาย ซึ่งคาดคะเนว่าเป็นคนฆ่า Al เช่นเดียวกัน Dr. Zed สแกนจี้ของ Koko และก็ศึกษาค้นพบข้อมูล ที่เสียหายนิดหน่อยบนจักจี้ ซึ่งเปิดเผยให้เห็นภาพ ของต้นไม้ใหญ่ โคโครู้สึกผิดหวัง กับข่าวสารการถึงแก่กรรมของพ่อแม่ เขาก็เลยหนีไปที่ต้นไม้ใหญ่

เมื่อไปถึงต้นไม้ใหญ่ โคโค่ก็ค้นพบชิปติดตาม ดร.เซดใส่มันลงบนตัวเขา ดร.เซดนำทีมวิจัยของเขาซึ่งถูกทีมร็อคเก็ตแทรกซึมเข้าไป นอกจากนี้ยังมีรถถังยักษ์ที่ดูเหมือนแมงมุม Satoshi และ Coco พยายามหยุดการกระทำของ Dr. Zedd แต่พวกมันถูกควบคุมโดย Ariados ของ Dr. Zedd และล้มลง หลังรถบรรทุก

จากนั้นเขาก็ยิงขีปนาวุธ ไปที่ต้นไม้ใหญ่เพื่อสร้างช่องเปิด แล้วน้ำพุจะพุ่งออกมาจากนั้น แอชหนีไปด้วยความช่วยเหลือของพิคาชูและทีมโคโค ร็อคเก็ตไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเมื่อพวกเขาต่อสู้กับคราโมแรนท์ และได้พบกับคุณหมอเซดที่ป่วยทางจิต

และยอมรับว่าเมื่อ Chrom และ Phossa Molybden ค้นพบตำแหน่งของต้นไม้ยักษ์นั้น พวกเขาปฏิเสธที่จะสอบสวนเพิ่มเติม ด้วยความเคารพต่อชนเผ่า Zarud เขาจึงสังหารทั้งสองคน และขโมยสปริงก่อนที่จะปล่อยให้พวกเขาตายก่อนที่จะพังยับเยินจากเหตุระเบิดรถยนต์ Chrom และ Fossa บนเตียงมรณะได้ส่งลูกน้อย Al ลงไปในแม่น้ำ ด้วยแรงผลักดันและการค้นคว้าที่เหลืออยู่ ทำให้ Salud พบเขา

ดร.เซดเข้าควบคุมรถถัง พิคาชูและโคโค่จากลูกน้องของเขาซาโตชิพยายามต่อสู้กับเขา แต่ก็ไม่เกิดผล ชนเผ่าของซารูเดมาถึงและพวกเขามั่นใจว่าจะช่วยกอบกู้ฟอเรสต์ซารูเดได้ ส่วนพ่อของโคโคก็นำกลุ่มโปเกมอนป่ามาช่วย คนที่ก่อนหน้านี้ไม่ชอบเผ่าของเขาเนื่องจากพฤติกรรมเห็นแก่ตัว

ช่วยซาลุดได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้และเกือบจะยอมแพ้แต่โคโค่พยายาม ควบคุมพลังแห่งป่าราวกับว่าเขาเป็นโปเกมอนตัวจริง รักษาเขาด้วยการร่วมมือกับพวกเขาทั้งหมดที่พวกเขาจัดการได้เพื่อทำลายแหล่งพลังงานของรถถัง ดร.เซดพยายามหลบหนี แต่ถูกโคโคจับตัวไว้

เรื่องราวของโปเกมอนเรื่องนี้คุ้มค่าแก่การดู โดยเฉพาะสำหรับภาคใหม่ของแฟรนไชส์นี้ เป็นเรื่องราวที่คุ้นเคยเกี่ยวกับเด็กชายคนหนึ่งที่ถูกเลี้ยงดูมาในป่า โดยไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเขาเป็นมนุษย์จนกระทั่งเกิดการเผชิญหน้ากันอย่างไม่คาดคิด (ดูทาร์ซานและThe Jungle Book ) เรื่องราวผสมผสานกับมนุษย์โลภที่ต้องการทำลายป่า ( Avatar , The LoraxและFerngully) เพื่อจับโปเกมอนแล้ว คุณสามารถดูหนังหนังเรื่องนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป แต่มันทำให้หนังคาดเดาได้ค่อนข้างมาก สิ่งที่ดีคือผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับแฟรนไชส์โปเกมอนจะยังคงพบว่ามันสนุกและง่ายต่อการติดตาม และแฟน ๆ ที่มีประสบการณ์อาจเพลิดเพลินไปกับตัวละครและทิวทัศน์ใหม่ ๆ เป็นภาพยนตร์ที่มองในแง่บวกและมีภาพที่สวยงาม พร้อมด้วยแอนิเมชัน 2 มิติที่สวยงามและข้อความที่เข้าใจง่าย

สรุปคือ Pokemon the Movie: Secrets of the Jungle เป็นเรื่องที่ดีอย่างน่าประหลาดใจและเป็นช่วงเวลาที่สนุกมากที่ได้รับชม เพื่อน ๆ ลองดูเรื่องนี้ดูก่อนค่ะ แม้ว่าพวกเราจะไม่ใช่แฟนคลับของโปเกมอนแต่นี่อาจเป็นภาพยนตร์โปเกมอนที่ดีที่สุดตลอดกาลสำหรับเราทุกคนก็ได้ค่ะ