รีวิว the emoji movie หนังการ์ตูนอนิเมชั่นพากย์ไทยน่าดู
สวัสดีเพื่อนๆทุกคนจ้าา สำหรับวันนี้ทางเราก็มีภาพยนตร์คอมเมดี้แนวไซไฟแอนิเมชั่น อนิเมะนอกกระแส ที่ไม่ได้โดดเด่นอย่างการ์ตูนอนิเมะผู้ชาย อนิเมะต่อสู้ ทั่วๆไป นั่นก็ภาพยนตร์คอมเมดี้แนวไซไฟแอนิเมชั่นที่มีชื่อเรื่องว่า the emoji movie โดยสำหรับอนิเมะเรื่องนี้นั้นก็เหมือนจะธรรมดาๆ แต่ก็ไม่ธรรมดา ซึ่งThe Emoji Movie ก็ที่เป็นที่ฮือฮากันในปี 2017 เรื่องราววุ่นๆ ของเหล่าทัพ อิโมจิ ที่ออกมาเป็นการ์ตูนอนิเมชัน ซึ่งมันก็น่าสนใจและมีชีวิตชีวาดีเมื่อเทียบกับตัวตนของมันบนแป้นพิมพ์ เรื่องราวจะดำเนินไปเช่นไร น่าติดตามชมหรือไม่ ไปติดตามดูอนิเมะกันได้ใน the emoji movie 2017
แนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับการ์ตูนออนไลน์น่าดูเรื่องนี้
รีวิว the emoji movie หนังการ์ตูนอนิเมชั่นพากย์ไทยน่าดูThe Emoji Movie เป็นภาพยนตร์คอมเมดี้แนวไซไฟแอนิเมชั่นจากคอมพิวเตอร์สัญชาติอเมริกันที่ออกฉายในปี 2017 ผลิตโดย Columbia Pictures และ Sony Pictures Animation และจัดจำหน่ายโดย Sony Pictures Releasing ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย Tony Leondis จากบทภาพยนตร์ที่เขาร่วมเขียนกับ Eric Siegel และ Mike White
วันที่ออกฉาย: 28 กรกฎาคม 2560 (อเมริกา)
ผู้กำกับ: โทนี่ ลีออนดิส
งบประมาณ: 50 ล้าน USD
บ็อกซ์ออฟฟิศ: 217.8 ล้าน USD
รางวัลที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง: นิโคโลเดียนคิดส์ชอยส์อวอร์ดส สาขาอนิเมชั่นยอดนิยม
บทภาพยนตร์: โทนี่ ลีออนดิส, ไมค์ ไวต์, อีริก ซีเกล, จอห์น โรเบิร์ต ฮอฟฟ์แมน
พล็อตเรื่อง
สำหรับพลอตของ The Emoji Movie หรือชื่อไทยไทยที่ไม่น่าไว้ใจอย่าง ‘แอ๊พติสต์ตะลุยโลก’ นั้นเริ่มจากเหล่า อิโมจิ ที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ชื่อว่า Textopolis มีหน้าที่แสดงอารมณ์ในแบบเดียวเท่านั้น ซึ่ง อิโมจิพระเอกของเรื่องนี้อย่าง จีน เจ้าอิโมจิอารมณ์ Meh หรือภาษาไทยก็ ‘งั้น ๆ’ ผู้ทำหน้าเบื่อโลกตลอดเวลา แต่มีความสามารถในการปรับอารมณ์ได้หลากหลาย และแทนที่จะเป็นจุดแข็งที่คนอื่นทำไม่ได้ กลับกลายเป็นปัญหาไปถึง อเล็กซ์ เด็กหนุ่ม ม.ต้น เจ้าของสมาร์ทโฟนที่เข้าใจผิดคิดว่าโทรศัพท์ของเขารวน เพราะตัวอิโมจิ ไม่สามารถแสดงอารมณ์ ‘งั้น ๆ’ ออกมาได้
การที่ จีน แสดงอารมณ์ออกไปผิดพลาด ส่งผลต่ออิโมจิตัวอื่น ๆ ที่ตกใจตื่นผวา ลุกลามไปยังแอปพลิเคชันการใช้งานจนทำให้สมาร์ทโฟนของ อเล็กซ์ ยิ่งรวนหนักจนเขาตัดสินใจจะไปทำการล้างเครื่องรีเซ็ทใหม่ทั้งหมดที่ร้านซ่อมมือถือ ซึ่งหมายความว่า อิโมจิทุกตัวในเมือง Textopolis จะถูกลบหายไป โจทย์สำคัญที่ทำให้ จีน ต้องหาวิธีหยุดยั้งไว้ให้ได้ โดยมี อิโมจิ ผู้ร่วมผจญภัยกับเขาอีก 2 ตัวอย่าง ไฮไฟว์ (ให้เสียงโดย เจมส์ คอร์ดอน) และ เจลเบรค (ให้เสียงโดย แอนนา ฟาริส) ทำภารกิจสำคัญอย่างการหาวิธีข้ามผ่านไฟร์วอลล์ให้ได้ โดยต้องหลบหนีการไล่ล่าจากบอทตัวร้ายและต้องวิ่งผ่านทั้งเกมส์และแอปพลิเคชันดัง ๆ บนสมาร์ทโฟนมากมายซึ่งคนดูคุ้นเคยกันอยู่แล้ว
หนังพยายามผูกปมของตัวละคร
ต้องบอกเลยว่าหนังพยายามผูกปมของตัวละครอย่าง จีน ให้มีมิติ โดยเฉพาะออกแบบให้มันเป็น อิโมจิ ที่มีชีวิตจิตใจมากกว่าการแสดงอารมณ์ ‘งั้น ๆ’ ได้เพียงอย่างเดียว พยายามยกเรื่องความจับฉ่ายในอารมณ์มาตีความเป็นไม่หนักแน่น สับสนหลงทาง เพราะ จีน ไม่รู้ว่าชั้นจะเอาดีทางไหนสักทาง กลายเป็นปัญหาใหญ่ในชีวิตที่ส่งผลต่อการดำรงชีวิตของ อิโมจิตัวอื่น ๆ ใน Textopolis ไปด้วย และนอกจากนี้การวาง mood and tone ของฉาก การเดินเรื่อง แทบจะเป็นการยกฉากจาก Inside Out มาทั้งดุ้น คือดูไปสักพักก็ไม่มีเรื่องอื่นเข้ามาในหัวเลยนอกจากเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตาม The Emoji Movie นั้นเลียนแบบมาได้เฉพาะเปลือกภายนอกเท่านั้นแหละ
ความรู้สึกหลังดูThe emoji Movie full movie
แน่นอนว่าช่วงแรกที่ได้ดูทีเซอร์ของอนิเมชันการ์ตูนพากย์ไทยน่าดูเรื่องนี้เชื่อว่าคอหนังส่วนใหญ่คงจะมองผ่าน ๆ ไป เพราะดูไม่มีอะไรหวือหวาเท่าไหร่กับ อิโมจิ ซึ่งถ้าว่ากันตามตรง แม้ว่าคนเราจะใช้มันส่งแทนข้อความกันอยู่ทุกวัน แต่มันก็ไม่ใช่ไอคอนขนาดที่ว่าผูกพันอะไรกันลึกซึ้งมากนัก แถมทุกวันนี้เราก็แทบจะหันมาใช้สติ๊กเกอร์กันอยู่แล้ว
ถ้ามองตามเทรนด์ก็ถือว่าการ์ตูนเรื่องนี้แอบมาเลทอยู่เยอะเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม กลับกลายเป็นว่าเมื่อไม่นานมานี้แวดวงนักวิจารณ์หนังเมืองนอกที่ได้ชมกันไปแล้วต่างสามัคคียกนิ้ว (กลาง) กับการ์ตูนเรื่องนี้ชนิดปัง (ปังปิ๊นาศ) ไม่เหลือคุณงามความดีเลย แต่ถึงอย่างนั้น มองกลับกัน มันก็กลายเป็นกระแสให้อนิเมชันเรื่องนี้ได้รับการจับตามองมากกว่าปกติเหมือนกัน
ควรรับชมหรือไม่
รีวิว the emoji movie หนังการ์ตูนอนิเมชั่นพากย์ไทยน่าดู จริง ๆ The Emoji Movie มันไม่ได้รับการคาดหวังอยู่แล้ว แต่หากหนังให้น้ำหนักกับการเขียนบทที่ดีกว่านี้ มันก็อาจเป็นหนังอนิเมชันที่ผู้ใหญ่ดูแล้วพอจะอินได้ขนาดสักประมาณ The Secret Life of Pets (2016) เพราะเอาจริง ๆ เหล่าทัพ อิโมจิ พวกนี้พอมาเป็นการ์ตูนอนิเมชันแล้วมันก็น่าสนใจและมีชีวิตชีวาดีเมื่อเทียบกับตัวตนของมันบนแป้นพิมพ์ แต่แน่นอนว่ามันยังห่างจาก Inside Out เยอะเพราะเนืื้อหาใน The Emoji Movie มันเบ๊าเบาสมอง
คือไม่ใช่ว่าจะฮาอะไรมากนะ แต่ว่าเนื้อหามันไม่มีอะไรจริงจังเลย เรียกว่าทำตัวสมกับเป็นการ์ตูนสำหรับเด็กดูมาก แถมลูกล่อลูกชน ชั้นเชิงมันก็ไม่มี ทำให้องค์ประกอบทั้งตัวละครและเส้นเรื่องมันราบเรียบมาก นอกจากนี้ การออกแบบมูฟเม้นท์ของตัวการ์ตูนกับมุกที่สอดแทรกมา ขาดความสร้างสรรค์ไปอย่างรุนแรง แต่รวม ๆ มันก็ยังพอรับได้ไม่อึดอัดมากนัก การเดินเรื่องไปได้กระชับรวดเร็วดี ไม่รู้สึกเนือยหรือเสียเวลาเหมือนตอนไปดูพวกหนังตลกงงชีวิตอย่าง สาระแน…(อ้าว..มายังไงวะเนี่ย ฮ่า ฮ่า ฮ่า)
เมสเซจหลัก ๆ ของ The Emoji Movie คือการไม่ทอดทิ้งกันของเพื่อน ความสำคัญของมิตรภาพ เพื่อนเจ็บเราก็เจ็บ มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน กับเรื่องความเป็นตัวของตัวเอง นอกจากนี้ก็ยังมีแอบจิกกัดเด็กมิลเลนเนียลที่โตมากับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตอยู่เป็นระยะ แต่น่าเสียดายที่หนังก็ไม่ได้ไปขยี้ ไปเน้นย้ำอะไรให้มันเป็นเรื่องเป็นราว
เรียกว่าใส่มาอย่างละนิดละหน่อย ถ้อยคำที่ส่งออกมามันเลยไม่ทรงพลัง ไม่มีน้ำหนักเท่าไหร่ ไฮไลท์สำคัญมองไปมองมามันน่าจะไปเน้นขายตัวละคร อิโมจิ ที่อยากให้คนดูรู้สึกว้าวกับการมีชีวิตชีวาในโลกการ์ตูนมากกว่า
สรุปภาพรวม The Emoji Movie การ์ตูนอนิเมชั่นสนุกๆเต็มเรื่อง
จริง ๆ The Emoji Movie ไม่ใช่อนิเมชันที่เลวร้ายมากมาย เพียงแต่จุดบอดใหญ่ตั้งแต่การวางคอนเซ็ปต์ตัวหนังมันดันไปลอก Inside Out ซึ่งมีจุดสตรองมาก ๆ ในเรื่องของเนื้อหาอยู่แล้วชนิดฟ้ากับเหว มันเลยเกิดการเปรียบเทียบชัดเจนที่แคนนอนกลับมายังตัวหนังเรื่องนี้เอง เพราะในด้านเนื้อหา The Emoji Movie มันไม่มีอะไรน่าจดจำ เป็นการ์ตูนขายแฟน ดูได้เพลิน ๆ ได้ยิ้ม ได้หัวเราะบ้าง ยังไงก็ไม่รู้สึกเจ็บตัวอะไรมาก ดูให้รู้ว่าครั้งหนึ่งอิโมจิพวกนี้มันก็เคยมีคนเอามาทำเป็นหนังแล้วนะ ซึ่งดูจบแล้วมันก็ ‘งั้น ๆ’ จริง ๆ นั่นแหละ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
รีวิว emoji movie สนุกมากแค่ไหน ควรค่าแก่การรับชมหรือไม่
The Emoji Movie อิโมจิ App ติสต์ ตะลุยโลก ว่าด้วยเรื่องราวในโลกของเหล่าอิโมจิ วันหนึ่งผู้ใช้มือถือกดอิโมจิ แต่เกิดแสดงผลผิดพลาด เนื่องมาจากความผิดพลาดของอิโมจิ ทำให้เจ้าของเครื่องเตรียมนำเครื่องไปล้างใหม่ และอาจจะทำให้โลกของอิโมจิต้องถูกลบไป เหล่าอิโมจิจึงต้องออกเดินทางไปยังสถานที่ที่อิโมจิไม่เคยไป
เพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยพล็อตเรื่องอิโมจิไม่ค่อยแปลกใหม่มากนัก แต่มีความน่าสนใจตรงที่การดีไซน์ตัวละครที่อยู่ในแอพต่างๆ ได้สร้างจินตนาการให้เห็นโลกเหล่านั้น จึงทำให้ค่อนข้างตื่นตาพอสมควร แต่ก็ไม่ได้ถึงกับสร้างความประหลาดใจมากนัก ซึ่งเรื่องราวของอิโมจิก็ค่อนข้างคล้ายคลึงกับแอนิเมชั่น Inside Out ที่เป็นเรื่องราวของโลกใบเล็กที่ซ่อนอยู่ความรู้สึกของมนุษย์ เช่นเดียวกับโลกของอิโมจิที่ซ่อนอยู่ในแอพพลิเคชั่นต่างๆ ในโทรศัพท์มือถืออย่างที่บอกว่าสิ่งที่พอจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ชมก็คือการดีไซน์ฉากตัวละคร ไม่ต้องพูดถึงเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างจะซ้ำ ไม่มีจุดให้ลุ้นหรือน่าติดตามมากนัก ออกแนวเรื่อย ๆ ชมการเดินทางของตัวละครฝ่าด่านจนกว่าจะถึงจุดหมาย เป็นแนวสูตรสำเร็จ คาดเดาเนื้อหาได้ง่าย และไม่มีการหักมุมใดๆ ทั้งสิ้น
สิ่งที่ประทับใจ
ต้องชื่นชมโปรดักชั่น การดีไซน์ตัวละคร ฉาก ที่ทำออกมาสวยงาม และลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์จึงดูง่าย สบายตาเหนือสิ่งอื่นใดแม้บทหนังจะไม่ได้มีความน่าสนใจมากนัก แต่สิ่งที่หนังต้องการจะสื่อให้เห็นก็มีหลายประเด็นที่เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบันที่สะท้อนให้เห็นว่าคนไม่ค่อยพูดคุยกัน มีแต่ก้มหน้าเล่นมือถือ เป็นสังคมก้มหน้า
อีกประเด็นก็คือการเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งจะเห็นว่าภาพยนตร์จากฝั่งตะวันตกค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะชีวิตของแต่ละคนไม่จำเป็นต้องอยู่ในกรอบเสมอไป ต้องมีการค้นหาตัวเอง เราแตกต่างจากคนอื่นได้ ไม่จำเป็นต้องมีชีวิตเหมือนกัน ที่สำคัญหนังได้ใส่ประเด็นเรื่องการทำงาน รับผิดชอบหน้าที่ของตนเอง เช่นเดียวกับตัวอิโมจิต้องการจะทำงานเหมือนคนอื่นๆ สะท้อนให้เห็นสภาพสังคมของประเทศที่สร้างหนังขึ้นมา ซึ่งจะปลูกฝังให้รู้จักการทำงานตั้งแต่เล็ก
เพื่อจะสร้างคุณค่าของตนเองอย่างไรก็ตามอนิเมชั่นพากย์ไทย The Emoji Movie อิโมจิ App ติสต์ ตะลุยโลก ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับบางคนที่ต้องการผ่อนคลายความเครียดจากการงานทั้งหลาย ด้วยการชมภาพยนตร์ที่ไม่ต้องคิดอะไรมากนัก ดูได้เพลินๆ ให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการชมภาพยนตร์ของลูกเด็กเล็กแดงก็ดีไม่น้อย เพราะเนื้อหาก็ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร ทั้งยังได้ใช้เวลาพิเศษกับครอบครัวได้เป็นอย่างดี