รีวิว Kengan ashura กำปั้นอสูรโทคิตะ สวัสดีครับ ผมต้องบอกว่าไม่รู้เกิดความผิดพลาดอะไร ทำไมผมถึงยังไม่เคยรีวิวอนิเมะเรื่อง เคนกัน อาซูร่า Kengan ashura season 3 หรือ โทคิตะ กำปั้นอสูร ถ้านับเฉพาะอนิเมะสายต่อสู้แท้ๆ ผมคิดว่าเรื่องนี้คือที่สุดแล้วครับ ดูแล้วมันจริงๆ ไม่ต้องพูดให้มากความ เน้นไปที่การซัดกันล้วนๆ งานภาพการออกแบบตัวละครและการต่อสู้ ต้องบอกว่าออกแบบมาได้อย่างดุเดือด ผมสงสัยมาตลอดว่าทำไมไม่ค่อยมีคนพูดถึง เป็นซีรี่ส์อนิเมะที่ได้รับคะแนนต่ำกว่าคาดสุดๆครับ หลังจากห่างหายไปหลายปี จนนึกว่าจะถูกทิ้งเอาไว้กลางทางแล้ว ในที่สุดซีซั่นใหม่ของ เคนกัน อาซูร่า ก็เข้ามาฉากซะที จากป้ายเขียนว่าซีซั่น 2 แต่จริงๆเรื่องนี้มี 3 ซีซั่นแล้วนะครับ โดยแบ่งออกเป็นซีซั่น 1 part 1 กับ Part 2 และล่าสุดก็คือ Season 2 ซึ่งก็คือ Season 3 นั่นเอง ยังไงก็ไม่น่าจะงงนะครับ สำหรับบทความนี้ ผมจะพูดถึงความรู้สึกหลังจากชมซีซั่นล่าสุดที่รอมานาน รวมไปถึงจัดลำดับไฟท์ที่ชอบที่สุดของซีซั่นกันด้วย แน่นอนว่าการต่อสู้ที่พวกเรารอคอยอยู่ในซีซั่นนี้ครับ การต่อสู้ระหว่างราชามวยไทยอย่าง เก้าล้าน วงศ์สวัสดิ์ และ คงเคียว มาซิโดะ บอสใหญ่ที่เก่งที่สุดของเรื่อง ผลจะเป็นยังไง ซีซั่นนี้มีคำตอบแน่นอนครับ เนื้อหาช่วงหลังของบทความนี้จะมีการสปอยด้วยเล็กน้อย แนะนำให้ดูก่อนรับชมนะครับ ดูอนิเมะ
รีวิว Kengan ashura season 3 กำปั้นอสูร โทคิตะ เนื้อเรื่องฉบับย่อ
เคนกัน อาซูร่า ในซีซั่นนี้จะเล่าเนื้อหาต่อจากภาคก่อน เรื่องราวยังคงอยู่บนการแข่งขันใต้ดินของเหล่าบริษัทญี่ปุ่น ที่ต้องส่งตัวแทนต่อสู้เข้ามาห่ำหั่นกันแบบมือเปล่าผู้ชนะจะได้รางวัลเดิมพันไปทั้งหมด นี่ไม่ใช่แค่เพื่อเงิน แต่เป็นศักดิ์ศรีของบรรดาผู้มีอำนาจในโลกทุนนิยมนี้ด้วย และด้วยความที่เดิมพันสูงเหล่านักสู้จึงถูกบีบให้แข่งขันจนบาดเจ็บสาหัส หรือไม่ก็ตายคาเวทีสังเวียนโหดนี้เดินทางมาถึงรอบที่สองแล้วยอดฝีมือหลายคนแม้จะยังไม่ทันหายบอบช้ำจากรอบก่อน พวกเขาก็ต้องฝืนลงเวทีอีกครั้ง คราวนี้มันจะดุเดือดแค่ไหน ตัวละครที่คุณเชียร์ยังจะได้ไปต่อหรือเปล่าติดตามได้ใน เคนกัน อาซูร่า ซีซั่น2ครับ
เนื้อเรื่องค่อนข้างยืด แต่ฉากการต่อสู้สุดมันทำได้ยอดเยี่ยม
ผมขอเปิดการรีวิวด้วยการบ่นว่าเนื้อเรื่องของซีซั่นนี้ค่อนข้างยืดครับ แต่ละคู่ใช้เวลาการต่อสู้นานกว่าซีซั่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด ด้วยความที่ตัวละครน้อยลงเพราะเนื้อเรื่องเดินทางมาถึงรอบที่สองแล้ว ฉากต่อสู้ของภาคนี้เลยใช้เวลานานขึ้น และแน่นอนต้องมีการเล่าย้อนอดีตที่นานขึ้นไปด้วย ผมว่ามันน่าจะนานพอๆกับ Record of ragnarok เลยล่ะครับ อารมณ์ตอนชมผมรู้สึกว่าหนืดๆหน่อย แต่พอทุกอย่างเข้าที่และถึงฉากที่ต้องใส่กันเน้นๆ ความมันส์ทุกอย่างก็กลับมาความต่อเนื่องของซีเล็คชั่นรายละเอียดในการต่อสู้ที่เจาะลึก ความพลิกแพลงบนสังเวียนที่คาดเดาไม่ได้ มันยังคงมีกลิ่นอายแบบนั้นอยู่ และยังคงเป็นกำปั้นอสูรที่เราคุ้นเคยกันอยู่เหมือนเดิมแถมคราวนี้แต่ละตัวละครที่ต้องมาต่อสู้กันคือยอดฝีมืออีกระดับที่ผ่านนรกมาแล้วครั้งนึงไม่มีคู่ที่รู้สึกว่าอีกฝ่ายหนึ่งได้เปรียบกว่าชัดเจน ครั้งนี้ทุกคนเก่งเกือบจะพอๆกันเกือบทั้งหมดเมื่อสูสีแบบนี้ก็ยิ่งทำให้อารมณ์ลุ้นตอนชมสูงขึ้นไปอีกครับ
แม้การออกแบบตัวละครในบางจุดจะรู้สึกว่า“อะไรวะเนี่ย”แต่สิ่งที่ผมชอบก็คือความเหลี่ยมจัดของตัวละครเนี่ยแหละครับนี่คือเสน่ห์ของ เคนกัน อาซูร่า สำหรับการต่อสู้ไม่ใช่แค่วิชาใครดีกว่าหรือร่างกายของใครแข็งแรงกว่ากัน ปัจจัยพวกนั้นทำให้ได้เปรียบก็จริงแต่ก็ไม่ถึงกับให้ชัยชนะ ใครที่ชอบรับชมกีฬาชกมวยหรือว่าต่อสู้ย่อมรู้กันดี เดี๋ยวนี้กลยุทธ์แผนการชกนั้นสำคัญไม่แพ้กับร่างกาย สังเวียนของ เทนกัน อาซูร่า สื่อสารประเด็นนี้ออกมาได้ดีอย่างยอดเยี่ยม เราจะได้เห็นการใช้กลยุทธ์ต่างๆของบรรดานักสู้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไม่ว่าจะเป็นลูกล่อลูกชนหรือการหลอกศัตรู คุณต้องลบภาพจำว่านักสู้ต้องเป็นพวกไร้สมองออกไปก่อนนะครับผมชอบตรงจุดนี้มากครับ มันทำให้สนุกและคาดเดาได้ยากด้วย
ฉากการต่อสู้ทำได้สุดยอด ดีกว่าภาคก่อนๆแบบเทียบไม่ติด
ฉากแอคชั่นต่างๆที่กลัวว่าจะถูกลดคุณภาพกลับไม่เป็นอย่างนั้นทุกอย่างยังคงมาตรฐานและก็ยังใช้การเคลื่อนไหวแบบ3Dผสมกับ2D เหมือนเดิมและรู้สึกว่าเอฟเฟคของท่าฟินิชเชอร์ดูอลังการมากกว่าเดิมซะอีก รู้สึกถึงแรงปะทะหมัดต่อหมัด แข้งต่อแข้งเนื้อชนเนื้อแบบจังๆเลยทีเดียวผมรู้สึกว่าสนุกมากๆ ดูการปะทะกันแต่ละครั้งแล้วรู้สึกว่าสะใจอยากโดนแบบนี้สักทีนึงถ้าไม่หลับก็น่าจะตายไปเลยล่ะครับ
ผมต้องบอกว่าเป็นอนิเมะที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับเราเข้าไปนั่งบนสเตเดียมแล้วมองการต่อสู้จริงๆ ยังไม่มีอนิเมะสายนี้เรื่องไหนที่ให้อารมณ์นี้ไปได้ดีกว่า เคนกัน อาซูร่า อีกแล้วครับความต่อเนื่องและการออกแบบSelectionที่เหมือนจะทิ้งห่างเรื่องอื่นๆไปไกลเลยขออภัยแฟนบากิด้วยนะครับ เอาจริงๆผมก็เป็นแฟนบากีเหมือนกันอ่านทุกภาคเลยมีมังงะอยู่ที่บ้านเลยด้วยซ้ำแต่สำหรับเวอร์ชั่นเคลื่อนไหวผมต้องยกให้เคนกันจริงๆครับ รายละเอียดต่างๆในสนามเด็ดกว่ามาก
สำหรับการรีวิวเนื้อเรื่องและเหตุการณ์ของ เทนกัน อาซูร่า ก็คงจะประมาณนี้ครับใครยังไม่ได้ชมต้องไปหาดูได้แล้วทาง Netflix มีครบทั้ง3ซีซั่นเลย ตอนละ20นาทีเท่านั้นค่อยๆดูก็ได้นะครับ
6 แมทช์การต่อสู้สุดประทับใจ จากทีมงานรีวิวของเรา
หัวข้อต่อไปผมจะขอพูดถึงแมทซ์ที่ประทับใจในซีซั่นล่าสุดของเรื่อง ซึ่งแน่นอนว่ามีสปอยล์นะครับใครที่ดูจบแล้วก็มาพูดคุยกันได้ครับ และผมจะไม่นับการต่อสู้ที่อยู่นอกเวทีนะครับ โดยในซีซั่นนี้จะมีการต่อสู้บนสังเวียนทั้งหมด6คู่
อันดับที่6 เมฆาร่องรอยคัตสึมี พบกับ มันโด โชเฮ คู่ต่อสู้ระหว่างตะลุยเฉื่อยชาและนักโทษหน้าโหด นี่คือการต่อสู้ที่ผมชอบน้อยที่สุดแล้วครับ สาเหตุมาจากความต่างของคาแรคเตอร์มันชัดเจนเกินไปลองดูแค่หน้าก็ได้ครับ ก่อนสู้ก็รู้อยู่แล้วนะว่าใครจะชนะ อีกฝ่ายดูเป็นตัวประกอบอย่างชัดเจนเป็นคู่คั่นรายการอย่างแท้จริง อีกอย่างก็คือรู้สึกว่ามันขัดใจกับรูปแบบการต่อสู้ของเกียร์ มันโด มากครับคือกระดูกเคลื่อนเกินขอบเขตกลายเป็นเหมือนแซ่ยาวๆ แต่มันจะยาวเกินมั้ยนี่มันเกินกว่าหลายช่วงตัวเลยนะ แล้วก็ดันใช้อยู่วิชาเดียวซ้ำๆ มีพลิกแพลงบ้างเล็กน้อยแต่ก็ไม่รู้สึกว้าวเท่าไหร่ ทำให้คู่นี้ไม่ค่อยสนุกอย่างที่คิด แต่ว่าไม้ตายปิดฉากของวิชาไอคิโดเท่ห์มากๆครับ
อันดับที่ 5 วากาซึกิ ทาเคชิ พบกับ จูเลียส ไรโฮ การปะทะกันของสองยอดมนุษย์กล้ามเนื้อ เป็นคู่ที่เปิดเรื่องได้ดีมาก กระชากทั้งอารมณ์และความคิดของผู้ชมเข้าสู่โลกของ เคนกัน อย่างรวดเร็ว ช่วงแรกดูผิวเผินเหมือนจะเป็นการปะทะกันแบบเอาแรงเข้าว่าอย่างเดียว แค่นั้นก็มันส์มากแล้วนะครับ สองยักษ์แลกหมัดกันเพียวๆ แต่ตอนเผด็จศึกดันมันส์ยิ่งกว่า เทคนิคอาจไม่ว้าวอะไรมาก แต่ว่าด้วยลูกล่อลูกชนและความพลิกแพลง ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งนำไปสู่ชัยชนะได้ เรียกว่าเป็นการต่อสู้ที่สัมผัสได้ถึงกึ๋นแบบสุดๆไปเลยครับ
อันดับที่ 4 ซอแปง พบกับ มิคาซึจิ เรย์ มวยพม่าราไวย์ปะทะกับศาสตร์นักฆ่า ตอนแรกคิดว่าอีกฝ่ายหนึ่งคือ คินัว ถ้าวัดถึงคุณภาพของการต่อสู้แล้ว คู่นี้อาจจไม่ได้ถือว่าเด็ดอะไรเท่าไหร่ แต่ละฝ่ายต่างมีข้อจำกัดเป็นของตัวเอง แต่ผมชอบตรงนี้นี่แหละครับ นี่คือการปะทะกันระหว่างนักสู้ที่อ่อนประสบการณ์กับนักสู้ที่ไม่สามารถใช้ความสามารถของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ใครทำได้ดีกว่าก็ชนะไป ซึ่งเหตุผลในการชนะและแพ้มันเข้าท่ามากๆครับ ซอแปง ได้เปรียบทั้งร่างกายระดับลูกรักพระเจ้า รวมไปถึงวิชามวยพม่าที่ถือว่าเป็นเจ้าสังเวียน แต่กลับเพลี้ยงพล้ำด้วยฝีมือและความฉลาด ต้องบอกว่าวิชามายาอัศนี ไม่ใช่วิชาการต่อสู้ที่สู้กันแบบซึ่งหน้า แต่คนใช้มันเก่งมากๆ แค่มองท่าทางอีกฝ่ายหนึ่งออกและรู้ล่วงหน้าว่าเขาจะทำอะไร ก็แก้ทางเอาแบบง่ายๆเลย ด้วยความลูกล่อลูกชนเจ้าหนุ่มมวยพม่าน้อยไปนิด ผลก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ เฉียดฉิวจริงๆ แต่ผมเนี่ยชอบฟีลตอนใช้ท่าของสองคนนี้ มันดูหนักแน่น การปะทะกันแต่ละครั้งเรียกว่าเนื้อๆเน้นๆครับ
อันดับที่ 3 มุทาบะ อิเซกะ พบกับ เซกิบายาชิ จุน แมตช์ระหว่างทหารรับจ้างพบกับโคตรนักมวยปล้ำ เอาจริงๆแล้วแม้จะใช้ศาสตร์ต่างกัน แต่ตัวละครทั้งสองตัวนี้มีจุดร่วมกัน นั่นก็คือพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อนำไปสู่ชัยชนะ ไม่มีการต่อยกันมั่วๆซั่วๆ โจมตีทุกจุดอ่อนของศัตรู ใช้ทางไม้ตายกันรัวๆ ใครพลาดนิดหน่อยเอาถึงตายทุกดอกครับ มันเป็นคู่ที่ต่อสู้กันรุนแรงและเถื่อนมากๆ แถมฉลาดซะด้วย เหลียมจัดแบบสุดๆครับ แผนซ้อนแผนซ้อนแผนกันไปมา เรียกว่าไม่มีใครยอมใครเลย ผมชอบฟิลลิ่งของคู่นี้ครับ มันทำให้การใช้เล่ห์เหลี่ยมไม่ใช่อะไรที่ชั่วร้าย หรือเป็นสิ่งที่ตัวโกงเท่านั้นที่จะสามารถทำได้ มันทำให้ทุกคนสามารถมีเล่ห์เหลียมได้ เราสามารถใช้เล่ห์เหลี่ยมไปพร้อมกับการเป็นคนที่น่าเคารพได้ อาจจะฟังแล้วแปลกแต่คู่นี้ทำได้ครับ นี่คือสิ่งที่การต่อสู้ส่งมอบให้กับเรา ถือว่าเจ๋งแล้วก็แปลกในเวลาเดียวกันครับ
อันดับที่ 2 คิริว เซ็ตสึนะ พบกับ คุโรกิ เคนไซ สิ่งที่ทำให้ผมชื่นชอบคู่นี้มากๆก็คือ เป็นการปะทะกันของเทคนิควิชา แต่ละฝ่ายมีไม้เด็ดเป็นของตัวเองที่น่ากลัวมาก ไม่ว่าจะเป็นวิชาลึกลับเงาจิ้งจอกสุดพริ้วและฝ่ามือล่ากษัตริย์ ของเซ็ตสึนะที่โดนเข้าไปทีเดียวถึงตาย ต้องมาเจอกับคุโรกิที่เป็นเทพเจ้าเทมโป ศาสตร์ที่รวมเอาเทควันโด ยูโด คาราเต้ เข้ามาไว้ด้วยกัน การป้องกันเป็นเลิศ แต่ก็มีท่าเผด็จศึกที่โดนโป้งเดียวจอดเหมือนกัน เรียกได้ว่าใครพลาดทีเดียวก็จบครับ ซึ่งแต่ละฉากก็ไม่ได้ทำแบบขอไปที แต่ละฝ่ายพลิกแพลงวิชาของตัวเองเข้าห่ำหั่นกันแบบทันกันสุดๆครับ เป็นการต่อสู้ที่ให้อารมณ์ลุ้นมากๆ ดูไม่ออกเลยว่าใครจะชนะ รูปแบบที่อีกฝั่งหนึ่งพริ้วไหวคาดเดายาก กับอีกฝั่งนึงที่สู้อย่างแข็งแรงเป็นระบบนั่นเป็นส่วนที่ทำให้ผมรู้สึกว่าชอบมากๆครับ
อันดับที่ 1 เก้าล้าน วงศ์สวัสดิ์ พบกับ คาโนะ อากิโตะ อันดับที่ผมชอบที่สุดครับมันเป็นคู่ไหนไปไม่ได้เลยนอกจากการปะทะระหว่างเทพมวยไทยปะทะราชันไร้พ่ายแห่งเท็นกัง ไม่รู้จะอธิบายยังไงครับ ต้องบอกว่าทำออกมาได้สมกับเป็นไคลแม็กซ์จริงๆ ต้องบอกว่าทีเด็ดของเรื่องมันต้องแบบนี้สิ มันถ่ายทอดการต่อสู้ระดับสูงที่แตกต่างกันจากคู่อื่นอย่างเห็นได้ชัด ถ้าเทียบก็คือเป็นคู่เอกที่สมราคานั่นเอง แต่ละฝั่งมีคาแรคเตอร์น่าสนใจมากๆ โดยเฉพาะ เก้าล้าน เทพมวยไทย ปกติแล้วเราอ่านมังงะต่อสู้จากญี่ปุ่นมาเยอะ เจอมวยไทยในเรื่องมาก็ไม่น้อย แต่จะไม่ค่อยมีมังงะที่เขียนให้นักมวยไทยเก่ง ปกติมาในรูปแบบเหมือนจะโหด แต่กลับเป็นแค่ตัวประกอบให้พวกพระเอกไต่บันไดไปต่อ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่แบบนั้นเลย เก้าล้านของเราดูเก่งมากจริงๆ ซึ่งในเรื่องก็ใช้มวยไทยที่พัฒนาไปในอีกรูปแบบในการต่อสู้
ฉากต่อสู้ทำได้สุดยอดทุกคู่ ดูแล้วอยากออกไปต่อยใครสักคน
แน่นอนว่าคงจะเป็นการตีความของทางผู้เขียนเอง แต่มันก็อยู่ในรูปแบบที่น่าสนุกมาก การต่อสู้เป็นแบบยืนแลกหมัดด้วยกันทั้งคู่ ทำให้เราได้ดูแบบเต็มๆไม่ต้องหยุดพัก ต้องบอกว่าสู้กันแบบจับล็อคมันก็เจ๋งดีแหละครับ ในซีซั่นที่แล้วก็มีให้ดูเยอะ แต่ผมชอบแบบยืนแลกหมัดกันมันสะใจมากกว่า ต้องบอกว่าสูสีกันมากๆ อย่าลืมว่าอีกฝ่ายเป็นบอสของเรื่องนี้เลยนะครับ และผลแพ้ชนะออกมาค่อนข้างเคลียร์ไม่มีการตุกติก ไม่มีการโกงกันแม้แต่น้อย มีแต่จังหวะปะทะจังหวะล้วนๆ เต็มอิ่มมากๆสำหรับคนที่รอดูนักชกไทยคนนี้มาตั้งแต่ซีซั่นแรก
บทสรุปภาพรวม Kengan ashura season 3 กำปั้นอสูร โทคิตะ
สรุปว่าเรารีวิวกันจนจบไปแล้วนะครับ สำหรับ เคนกัน อาซูร่า ซีซั่นที่ 3 หนังอนิเมะต่อสู้ที่สนุกเดือดพล่าน และมันส์ที่สุดของเน็ตฟลิกซ์ เพื่อนๆมีความเห็นยังไงกันบ้าง คู่ไหนซัดกันเดือดที่สุดในใจของคุณ ฝากคอมเม้นท์ไว้ให้ทีมงานอ่านได้เลยครับ ไม่แน่ว่าซีซั่นนี้จะมี Part 2 ตามมาหรือเปล่า ซึ่งถ้าดูจากเนื้อเรื่องแล้วก็ควรจะเป็นอย่างนั้น อย่าให้ต้องรออีก 3-4 ปีเลย สำหรับวันนี้ทีมงานรีวิวอนิเมะของเราต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วเจอกันใหม่ครับ